สรุปทุกประเด็น "เลือก สว." ฮั้ว-อั้งยี่-ฟอกเงิน เกมอำนาจหรือฮั้วกันจริง ?

25 ก.พ. 68 ต้องจับตา เพราะบอร์ด DSI หรือ คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) จะประชุมสรุปผลว่า จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่? 
 
บอร์ดมี 22 คน ต้องได้รับเสียง 2 ใน 3 หรือ 15 คน ถึงจะผ่าน โดยมี ภูมิธรรม รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะ และมี รมว.ยุติธรรม ทวี สอดส่อง เป็นรองประธาน
 
รมว. ภูมิธรรม ยัน เป็นเรื่องกฏหมายไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง DSI ยื่นเรื่องเสนอมามันมีเหตุผล แต่ก็ต้องดูว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษไหม ย้ำไม่ต้องเคลียร์ใจภูมิใจไทย ไม่ใช่หน้าที่ เดินออกเลย
 
ส่องเนื้อหาในเอกสารลับแบบละเอียดของ DSI

แบ่งเป็นการแจ้งผลสอบสวน และ ถาม กตต. ว่าจะรับดำเนินการคดีไหนบ้าง?

จากที่ดีเอสไอได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ผลสอบสวน เชื่อได้ว่า มีขบวนการอั่งยี่ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติโดยมิชอบจริงและ ฟอกเงิน โดยมีโพยฮั้วสว. 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน พบว่าเป็นผู้ได้รับเลือกเป็น สว.138 คน และอยู่ในลำดับสำรอง 2 คน

การกระทำนี้อาจเข้าข่ายการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2563 มาตรา 977 (3) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่) และความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ.2542

ขบวนการนี้มุ่งหวังเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ ทราบว่ามีการวางแผนมาตั้งแต่ก่อนเริ่มกระบวนการเลือก สว. ต่อเนื่องมาจนหลังการเลือก สว.เสร็จสิ้น 

ลักษณะการกระทำความผิดเป็น
- องค์กรอาชญากรรม แบ่งแยกหน้าที่
- มีฝ่ายไอทีเตรียมโปรแกรมคำนวณการลงคะแนน  
- ออกเป็นโพยฮั้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามจำนวน สว. ที่ต้องการ
- เตรียมบุคคลที่มาลงคะแนนที่เรียกว่ากลุ่ม “พลีชีพ” 
- มีการวางแผนที่สลับซับซ้อน อุกอาจมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย
- มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ยังไม่ทราบอีกมาก
 

DSI จึงมองว่าเข้าเงื่อนไขการรับเป็นคดีพิเศษ
เพราะต้องใช้วิธีพิเศษในการรวบรวมหลักฐาน  เช่น ตรวจสอบร่องรอยการติดต่อสื่อสาร เส้นทางการเงิน สถานที่จัดประชุม วางแผน สถานที่พบปะติดต่อ พิสูจน์ทราบกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที ที่เข้ามาร่วมสนับสนุน  จึงอยู่ในขอบข่ายเงื่อนไขตามกฎหมายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษได้

เรามีความพร้อมด้านบุคลากรและเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีที่จะใช้ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบเครือข่าย และองคาพยพของกลุ่มขบวนการทั้งหมด นอกจากนี้ พยานสำคัญอาจจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการให้ความคุ้มครองพยาน เพราะเหตุที่พยานอาจเกรงกลัวต่ออันตรายแก่ชีวิตร่างกาย 

หาก กกต.พิจารณาแล้วมีความเห็นประการใด กรมสอบสวนคดีพิเศษขอความอนุเคราะห์ให้ กกต.ได้กรุณาแจ้งว่ามีความผิดทางอาญาใดบ้างที่ กกต.ประสงค์จะรับไว้ดำเนินการสอบสวนเอง และความผิดทางอาญาใดบ้างที่ กกต.ประสงค์จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ดำเนินการ 

สว.ผู้ทรงเกียรติ เสียงแตก ?
 
กลุ่มแรก เดือดมาก โกรธมาก คุณมงคล สุระสัจจะ และ พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ ประธาน และ รองประธานวุฒิสภา ค้านอ้าง DSI ไม่มีอำนาจ นี่มันเป็นเรื่องที่ กกต.

คำสัมภาษณ์รัฐมนตรีทวี กล่าวหาว่า กลุ่ม สว. มีการกระทำความผิด ตาม ม.116  อั่งยี่ และ ฟอกเงินนั้น ถือว่าทำ สว. เสียหาย บิดเบือนและฉ้อฉล นำกฏหมายมาใช้ในทางมิชอบ ยอมไม่ได้ เตรียมดำเนินคดีถึงที่สุด 

จากนี้ สว.จะเข้าชื่อ เสนอประธานวุฒิสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทันที เสียงพอแน่ 

จะเปิดอภิปรายทั่วไป  หรือ อภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหาร ในประเด็นการทำงานของดีเอสไอ ที่กล่าวหา สว. เป็นไปด้วยเหตุและผลหรือไม่
 
แต่ปัด ไม่ใช่กระบวนการล้ม สว.สีน้ำเงิน แต่ก็อาจจะมีส่วน แต่น่าจะเป็นความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า
 
ในขณะที่ สว.พันธุ์ใหม่ หนุน ‘ดีเอสไอ’ เหน็บ ‘มุ้งใหญ่’  ไม่ผิดอย่าร้อนตัว ขู่ยื่นซักฟอกเพื่อปิดปาก 

ย้ำว่า หน้าที่ของ  (กกต.) คือ สอบสวนการทุจริตเลือกตั้ง แต่ผ่านไป 7 เดือน  ยังเงียบอยู่ประชาชนเริ่มกังขา การทำหน้าที่ กกต. หากดีเอสไอเข้ามาทำให้คลายข้อสงสัย ในการเลือกตั้ง สว.67 ได้ ตนก็เห็นด้วย เพราะการเลือก สว.ตอนนี้มันวิปริต บิดเบี้ยว จึงอยากให้แก้ รธน. เกี่ยวกับการได้มา ซึ่ง สว.ก่อน ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะหากตอนนี้ เกิดการล้มกระดาน สว. ใหม่ แต่กติกายังอันเดิม ก็ไม่เกิดประโยชน์

สรุปให้ครบนะ ทุกประเด็น เรื่องนี้ขอยังไม่พูดอะไรเยอะ ขอรอดูก่อนว่าจะมวยล้มต้มประชาชนหรือไม่