
โอกาสทองของไทย จีนพร้อมลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนกำลังก้าวสู่มิติใหม่ที่น่าตื่นเต้น เมื่อคณะผู้แทนบริษัทจีนจากสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน (CEA) นำโดยนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เข้าพบนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพื่อยืนยันความพร้อมขยายการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะใน 3 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เซมิคอนดักเตอร์ และพลังงานทางเลือก
การหารือที่เกิดขึ้น ณ ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการดึงดูดการลงทุนคุณภาพจากจีน ซึ่งจะช่วยยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ผลงานเชิงรุกของรัฐบาลเห็นได้ชัดจากการที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้หารือกับผู้นำระดับสูงของจีนเพื่อกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ความพยายามเหล่านี้กำลังเกิดผลเป็นรูปธรรม เมื่อบริษัทชั้นนำของจีน 12 แห่งใน 6 สาขาหลักแสดงความสนใจขยายการลงทุนในไทย

สรุปข่าว
นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนจากจีนอย่างเต็มที่ ด้วยการปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) และส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้รองรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
การขยายการลงทุนของจีนในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์ และพลังงานทางเลือก จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่ของการสร้างงานคุณภาพสูง การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยเข้ากับห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะในสาขาเซมิคอนดักเตอร์ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ฝ่ายจีนเองก็มองเห็นศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค สะท้อนจากการที่สมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน (CEA) มีสมาชิกเป็นบริษัทชั้นนำมากถึง 380 แห่ง รวมถึงบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 กว่า 40 บริษัท ซึ่งพร้อมจะเพิ่มการลงทุนและขยายธุรกิจในไทย
นอกจากการลงทุนโดยตรงแล้ว บริษัทจีนยังแสดงความพร้อมในการร่วมพัฒนาบุคลากรไทยผ่านโครงการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถของแรงงานไทยในระยะยาว รัฐบาลไทยจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและพัฒนาความร่วมมือกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนที่กำลังเข้มข้นขึ้นนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถยกระดับเศรษฐกิจสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภูมิภาค พร้อมเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยวิสัยทัศน์ของรัฐบาลและความพร้อมของภาคเอกชนจีน ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนคุณภาพของเอเชีย และเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนในอนาคตอันใกล้นี้