คนไทย กับ หนี้สิน เรากำลังติดกับดักทางการเงินหรือไม่?

เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน ทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น ค่าเงินผันผวน และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ผลสำรวจจาก “สวนดุสิตโพล” ล่าสุดเผยว่า คนไทยกว่า 51% ต้องใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน และอีก 42.68% ต้องเผชิญกับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิตหรือเงินกู้จากสถาบันการเงินต่างๆ คำถามคือ—เราอยู่ในวัฏจักรหนี้สินที่ไม่มีทางออกหรือไม่?  

- อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องที่นี่ ดุสิตโพลชี้สภาพเศรษฐกิจไทยมีผลกระทบ ประชาชนใช้จ่ายเดือนชนเดือน มีหนี้สินเพิ่มขึ้น

หนี้ท่วม รายได้ทรง ภาพสะท้อนวิกฤตการเงินครัวเรือนไทย

เมื่อพูดถึง "หนี้สิน" คงไม่มีใครอยากเผชิญ แต่น่าแปลกที่ทุกวันนี้ มันกลายเป็น "เพื่อนคู่กาย" ของคนไทยไปเสียแล้ว ผลสำรวจล่าสุดจากสวนดุสิตโพลสะท้อนภาพชัดเจนว่า กว่า 42% ของคนไทยกำลังแบกรับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากบัตรเครดิตและเงินกู้ประเภทต่างๆ

"ทำไมคนไทยถึงเป็นหนี้?" คำถามนี้อาจดูเรียบง่าย แต่คำตอบกลับซับซ้อน ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า (ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น) คือตัวการสำคัญ เมื่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูงลิ่ว แต่รายได้กลับ "ทรงตัว" หรือบางคนถึงขั้น "ถดถอย" จึงไม่น่าแปลกใจที่ 51% ของคนไทยต้องใช้ชีวิตแบบ "เดือนชนเดือน"

คนไทย กับ หนี้สิน เรากำลังติดกับดักทางการเงินหรือไม่?

สรุปข่าว

สวนดุสิตโพลเผยคนไทย 42% มีหนี้สินเพิ่มขึ้น ทั้งบัตรเครดิตและเงินกู้ สาเหตุหลักจากค่าครองชีพสูง ส่งผลให้ 51% ต้องใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน ประชาชน 76% หวังรัฐบาลเร่งแก้ปัญหา แต่ 69% เห็นว่ามาตรการปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพ มีเพียง 14% ที่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นในปี 2568

น่าสนใจว่า วิกฤตนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่เป็นเพราะ "ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต" ที่แพงขึ้น ตั้งแต่ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ไปจนถึงค่าสาธารณูปโภค ในขณะที่ภาคธุรกิจก็ไม่กล้าลงทุนเพราะต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลให้การจ้างงานและการเติบโตของเงินเดือนชะลอตัว

ค่าครองชีพสูง เงินเดือนเท่าเดิม แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น

จากผลสำรวจ พบว่าคนไทย 82.94% มองว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นคือปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งนำไปสู่ปัญหาหนี้สินที่ทับถมมากขึ้น เพราะแม้แต่ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำมัน และค่าที่พักอาศัย ต่างก็แพงขึ้นทุกปี แต่เงินเดือนกลับไม่ได้ปรับเพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อ คำถามคือ—ถ้าเศรษฐกิจยังเป็นแบบนี้อีก 5-10 ปี คนไทยจะรับมืออย่างไร?


มาตรการรัฐบาล ยิ่งแก้ ยิ่งติดกับดัก?

คนไทยกว่า 69.50% มองว่ามาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล “ไม่มีประสิทธิภาพ” ทำให้ภาระหนี้สินยังคงพอกพูนขึ้น รัฐบาลควรเน้นที่การช่วยลดภาระค่าครองชีพ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และสร้างโอกาสทางรายได้ให้ประชาชนมากกว่าการให้เงินเยียวยาชั่วคราวที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินในระยะยาว (หรือเรากำลังถูกทำให้เคยชินกับการได้รับเงินช่วยเหลือ จนไม่ได้มองหาทางออกด้วยตนเอง?)

อนาคตเศรษฐกิจไทย ทางรอด หรือทางตัน?

คนไทยกว่า 46.01% คิดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเหมือนเดิม ในขณะที่อีก 39.44% เชื่อว่าเศรษฐกิจอาจแย่ลง แล้วเราจะมีทางออกอะไรได้บ้าง?

  • ควรเริ่มบริหารเงินแบบมีวินัย แทนที่จะพึ่งพาหนี้สินเป็นหลัก เราอาจต้องกลับมาทบทวนพฤติกรรมการใช้จ่ายและหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
  • มองหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล การมีรายได้ทางเดียวอาจไม่เพียงพอ การมองหาโอกาสเสริม เช่น การค้าขายออนไลน์ หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนระยะยาว อาจช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน
  • ผลักดันให้ภาครัฐปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาหนี้สินไม่สามารถพึ่งพาตัวบุคคลได้ แต่ต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจในระดับโครงสร้าง ซึ่งต้องอาศัยทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน

เราจะปลดล็อกหนี้สินได้อย่างไร?

ท้ายที่สุด หนี้สินไม่ใช่ปัญหาที่แก้ได้ในชั่วข้ามคืน แต่การมีความรู้ทางการเงิน การใช้จ่ายอย่างมีสติ และการมองหาโอกาสใหม่ ๆ อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คนไทยหลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้ แล้วคุณล่ะ คิดว่าทางออกของปัญหานี้คืออะไร?

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Freepik

แท็กบทความ

หนี้สินครัวเรือน
ค่าครองชีพ,
เศรษฐกิจไทย
เงินเดือนไม่พอ
สวนดุสิตโพล
บัตรเครดิต