
“เรามีโอกาสรอดน้อยมาก ๆ หากปราศจากความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ” นี่เป็นคำกล่าวของโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว NBC ถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะเป็นอย่างไร หากสหรัฐฯ ถอนความช่วยเหลือ
นับตั้งแต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ดูเหมือนจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปจากเดิม และมีแนวโน้มว่าทรัมป์จะพบกับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซียเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ ท่าทีของสหรัฐฯ และยูเครนเริ่มมีความสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนในการต้านทานรัสเซียอีกต่อไป แล้วหลังจากนี้ ชะตาชีวิตของยูเครนจะเป็นอย่างไรต่อไป ?

สรุปข่าว
สหรัฐฯ จ่อถอนทหารออกจากยูเครน
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่า เขาอาจจะลดจำนวนความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนลง ซึ่งสิ่งนี้ สร้างความกังวลให้กับหลายประเทศถึงความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่มีต่อยูเครนในอนาคต
“ผมไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้ การต่อสู้กับรัสเซีย โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกา...ผมไม่อยากคิดว่า เราจะไม่ใช่พันธมิตรทางยุทธศาสตร์” เซเลนสกี กล่าวกับสำนักข่าว NBC
เซเลนสกี กล่าวด้วยว่า ยูเครนจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีครั้งใหญ่จากรัสเซีย หากสหรัฐฯ ไม่ให้ความช่วยเหลือทางทหารอีกต่อไป ประธานาธิบดีปูตินต้องการเจรจาบนโต๊ะ ไม่ใช่เพราะต้องการยุติสงคราม แต่เพื่อให้ได้ข้อตกลงหยุดยิง ที่จะทำให้ยกเลิกการคว่ำบาตรจากนานาชาติ และเปิดโอกาสให้มีการเตรียมกลุ่มทหารใหม่อีกครั้ง
“นี่เป็นสิ่งที่ปูตินต้องการจริง ๆ เขาต้องการหยุด, เตรียมตัว, ฝึกฝน และยกเลิกการคว่ำบาตรบางข้อ เพื่อแลกกับการหยุดยิงและอื่น ๆ ” เซเลนสกี กล่าว
ตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 สหรัฐฯ จัดสรรงบประมาณ 1.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ยูเครน
ในจำนวนนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันกับทางสำนักข่าว VOA ว่า สหรัฐฯ ใช้งบประมาณ 6.59 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปกับความช่วยเหลือทางทหาร และยังเหลืออีก 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับความช่วยเหลือทางทหารที่ยังไม่ได้นำไปใช้
นอกจากนี้ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกใช้ไปในสหรัฐฯ เพื่อช่วยอุตสาหกรรมการป้องกันสหรัฐฯ โดยเงินจำนวนนี้ใช้เพื่อทดแทนอาวุธเก่าที่ส่งให้ยูเครนด้วยอาวุธใหม่, ซท่ออาวุธใหม่ให้ยูเครน และลงทุนกับโรงงานสหรัฐฯ เพื่อผลิตอาวุธมากขึ้น
ยุโรปทดแทนสหรัฐฯ ไม่ได้
ด้วยการให้ความช่วยเหลือที่ไม่แน่นอนของสหรัฐฯ ยุโรปจึงต้องเผชิญกับแรงงานดันอย่างมาก เพื่อมาเติมเต็มช่องว่างการช่วยเหลือที่เกิดขึ้นนี้
ขณะเดียวกัน ระหว่างการประชุมความมั่นคงมิวนิก ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เซเลนสกีได้แสดงท่าทีตอบสนองต่อการกระทำของทรัมป์ โดยเสนอแนะว่า ยุโรปจำเป็นต้องสร้างกองทัพของตนเอง พร้อมเตือนว่า สหรัฐฯ อาจจะปฏิเสธให้ความช่วยเหลือกับยุโรป แม้ว่ายุโรปจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
ถึงจะมียุโรปคอยให้ความช่วยเหลือยูเครน แม้ความกังวลเรื่องการช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า ความช่วยเหลือจากยุโรปนั้นอาจไม่เพียงพอ
พลโท อิฮอร์ โรมาเนนโก อดีตรองหัวหน้าเสนาธิการกองทัพยูเครน กล่าวกับสำนักข่าว Al Jaeera ว่า ยูเครนต้องการความช่วยเหลือมากกว่าที่ยุโรปจะสามารถให้ได้
“ยุโรปไม่สามารถแทนที่ความช่วยเหลือจากอเมริกาได้...ยูเครนจะอยู่รอดได้ไม่นาน หากไม่มีความช่วยเหลือและการคาดการณ์ทางทหารจากสหรัฐฯ” พลโท โรมาเนนโก กล่าว
นอกจากความช่วยเหลือที่อาจไม่เพียงพอ บางประเทศในยุโรปก็อาจตัดสินใจไม่ช่วยเหลือยูเครนด้วยเช่นกัน
วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี และโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย ไม่สนับสนุนความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอย่างเต็มที่ และอาจจะขัดขวางยุโรปไม่ให้ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขณะที่ พรรคฝ่ายขวาอย่าง พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี หรือ AfD ในเยอรมนี กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ยุโรปตัดสินใจส่งความช่วยเหลือไปยังยูเครนยากขึ้น
พรรค AfD คัดค้านนโยบายผู้อพยพ, สหภาพยุโรป บ่อยครั้งก็สนับสนุนปูติน จึงทำให้เกิดความกังวลว่า หากพรรคมีอำนาจมากขึ้น เยอรมนีอาจจะหยุดส่งความช่วยเหลือให้กับยูเครน และผลักดันผู้อพยพจากประเทศนี้กลับบ้านเกิด
แม้ยุโรปตัดสินใจเพิ่มการสนับสนุนความช่วยเหลือ แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการขยายการผลิตอาวุธและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งรัสเซียสามารถผลิตอาวุธทางทหารได้รวดเร็วกว่ากลุ่มประเทศนาโต รวมถึงยังมีความช่วยเหลือด้านอาวุธและทหารจากเกาหลีเหนือด้วย
ยูเครนอาจอยู่ได้แค่ 6 เดือน หากสหรัฐฯ ตัดการช่วยเหลือ
โรมาเนนโก ชี้ให้เห็นถึงภาพล่วงหน้าของยูเครนว่าจะเป็นอย่างไร หากสหรัฐฯ ไม่ให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยเมื่อปี 2024 งบประมาณความช่วยเหลือยูเครน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อนุมัติล่าช้าเป็นเวลาหลายเดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตอบสนองของนักการเมืองจากพรรครีพับลิกัน
ระหว่างนั้น ยูเครนต้องสูญเสียจุดยุทธศาสตร์สำคัญหลายแห่ง บนพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ในภูมิภาคดอนบาส รวมถึงชีวิตทหารอีกหลายพันนาย
“เราได้เห็นแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างจากการระงับความช่วยเหลือนานถึง 6 เดือน” โรมาเนนโก กล่าว
“เราจะอยู่ได้เพียงแค่ 6 เดือน” โรมาเนนโกคาดการณ์ถึงสถานการณ์ยูเครนจะเป็นอย่างไรต่อไป หากสหรัฐฯ ไม่ให้ความช่วยเหลือ
อาวุธยูเครนใกล้จะหมดลง
ตั้งแต่ปี 2022 สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือกับยูเครนไปแล้วทั้งหมด 1.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นิโคไล มิโตรคิน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบรเมิน ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ปริมาณการใช้คลังอาวุธจากสหรัฐฯ ของยูเครนจะหมดเร็วเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับว่า ทหารเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ต่อสู้มากน้อยแค่ไหน
การโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย บีบบังคับให้ยูเครนจำเป็นต้องใช้ขีปนาวุธแพตทริออต ซึ่งผลิตในสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศ
มิโตรคิน กล่าวว่า ขีปนาวุธแพตทริออตมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ แต่มักถูกใช้ไปกับเป้าหมายที่สิ้นปลืองอย่าง โดรนชาเฮดจากอิหร่าน หรือ โดรนจำลองที่ผลิตในรัสเซีย พร้อมคาดว่า คลังอาวุธสหรัฐฯ ที่มีอยู่จะอยู่ได้ยาวสุดช่วงเดือนกรกฏาคม-กันยายน
“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมสันนิษฐานว่า คลังอาวุธของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน และที่กำลังจะมา จะมีอยู่ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม หรือไม่ก็เดือนกันยายน หากพวกเขาลดปริมาณการใช้งานลงมาอยู่ในระดับกลาง ๆ” มิโครติน กล่าว
การสูญเสียความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ยุโรปไม่สามารถชดเชยได้ โดยเฉพาะขีปนาวุธแพตทริออต ที่ใช้ในการต่อต้านการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม มิโครติน กล่าวด้วยว่า หากความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และปูตินแย่ลง สหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มจะช่วยเหลือยูเครนมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ยูเครนอยู่รอดต่อไปได้บนสงครามขัดแย้งที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4
ถ้ายูเครนแพ้ จะเป็นอย่างไร ?
สถาบันอเมริกันเอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ AEI รายงานว่า หากรัสเซียชนะสงครามในยูเครน สหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มมากขึ้นอีกถึง 8.08 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2029 เพื่อป้องกันภัยคุกคามเพิ่มเติมจากรัสเซีย
สิ่งนี้จะทำให้กระทรวงกลาโหมต้องเพิ่มงบประมาณเป็น 5.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 4.4 ล้านล้านดอลาร์สหรัฐ จากแผนเดิมที่เคยวางไว้
รายงานฉบับนี้ เผยด้วยว่า ชัยชนะของรัสเซียจะเปลี่ยนความมั่นคงของยุโรป และสนับสนุนให้รัสเซียท้าทายประเทศนาโต โดย AEI เรียกร้องให้สหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับอเมริกาในอนาคต
แปล-เรียบเรียง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://ubn.news/if-ukraine-loses-the-war-it-will-cost-the-us-dearly/
ที่มาข้อมูล : Al Jazeera, NBC News, UBN News
ที่มารูปภาพ : Reuters

พรวษาภักตร์ดวงจันทร์
()