The White Lotus Effect: เมื่อการถ่ายทำในไทย จะส่งผลให้ท่องเที่ยวบูม

เปิดตัว และเริ่มฉายไปแล้ว กับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซีรีส์แนวดราม่าตลกร้ายของ Mike White นำเสนอเรื่องราวของแขกและพนักงานโรงแรมหรูภายใต้ฉากหลังอันงดงามของรีสอร์ท White Lotus ที่จิกกัดเสียดสีเรื่องราวครอบครัวคนรวย มุมมืดของมนุษย์ ผ่านฉากหลังสถานที่ท่องเที่ยวสวยหรู ซึ่งในซีซั่นที่ผ่านมา เนื้อเรื่องดำเนินอยู่ที่ ฮาวายและซิซิลี

ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวซีรีส์ และนักแสดงที่โด่งดัง ได้รับกระแส และกวาดรางวัลในเวทีนานาชาติไปได้ แต่สถานที่ถ่ายทำที่ผ่านๆ มา ก็ได้รับผลกระทบในด้านบวก ในแง่ของการท่องเที่ยว และเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้ามา และซีซั่นนี้ ที่ถ่ายทำที่ประเทศไทย และได้นักแสดงไทยไปร่วมแสดงสมทบนั้น ก็เชื่อว่า จะส่งผลต่อการท่องเที่ยวไทย หรือที่เรียกว่า The White Lotus Effect

The White Lotus Effect: เมื่อการถ่ายทำในไทย จะส่งผลให้ท่องเที่ยวบูม

สรุปข่าว

การถ่ายทำซีรีส์ The White Lotus ในประเทศไทย จะส่งผลต่อการท่องเที่ยวไทย ที่อาจเป็นที่นิยมมากขึ้นหลังซีรีส์ออนแอร์ จากความสำเร็จของซีรีส์ภาคก่อนๆ จนเป็นการเรียกว่า The White Lotus Effect

อิทธิพลต่อการท่องเที่ยว : The White Lotus Effect 

ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า The White Lotus Effect ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากซีซั่นก่อนหน้า โดยโรงแรมที่เป็นสถานที่ถ่ายทำได้รับการจองเต็มอย่างรวดเร็ว เช่น Four Seasons San Domenico Palace ที่ซิซิลี และ Four Seasons Resort Maui at Wailea ที่ฮาวาย ซึ่งมียอดเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้นกว่า 425% เมื่อเทียบเป็นรายปี 

ความคาดหวังในประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน เมื่อประกาศว่าซีซันที่ 3 จะถ่ายทำในไทย จำนวนการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นทันที แพลตฟอร์มการจองโรงแรมรายงานว่า Four Seasons Resort Koh Samui หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ มีอัตราการจองเพิ่มขึ้นถึง 40% ทั้งเธียรประสิทธิ์ ไชยภัทรนันท์ ประธานสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า แม้ก่อนซีรีส์ฉาย ก็เชื่อว่ายอดจองห้องพักเพิ่มขึ้นแล้ว “ช่วงไฮซีซั่นของปีที่แล้ว คือ เดือนพฤศจิกายน ธันวาคม และมกราคม ทางภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะสมุย มีการจองเต็มหมดแล้ว” ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดการท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ของไทยกำลังได้รับผลด้านบวกจากซีรีส์

The White Lotus ไม่ใช่ละครเรื่องแรกที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์อย่าง Lord of the Rings, The Sound of Music หรืออย่างซีรีส์ Emily in Paris ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจในยุคดิจิทัล คือ ข่าวคราวเกี่ยวกับรายการสตรีมมิ่ง ส่งผลต่อสถายที่ถ่ายทำ 


โดยจากการวิจัยในปี 2015 พบว่า คน 1 ใน 5 เดินทางไปประเทศอังกฤษ จากสิ่งที่พวกเขาเห็นจากการถ่ายทำในฉากต่างๆ แต่ล่าสุด  Seren Welch ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวผ่านหน้าจอว่า "การวิจัยล่าสุดของ Visit Britain แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยว 9 ใน 10 คนเดินทางมาอังกฤษ เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นในภาพยนตร์และทีวี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้มาจากการแพร่หลายของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง 


Welch  ยังกล่าวว่า “ฉันเคยได้ยินผู้บริหารของบริติชแอร์เวย์พูดว่า เมื่อพบว่าปริมาณการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแห่งใดแห่งหนึ่งเพิ่มสูงขึ้น พวกเขาก็จะดูว่ามีอะไรที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน Netflix เพื่ออธิบายเรื่องนี้” แสดงให้เห็นว่า จุดท่องเที่ยวยอดฮิต มักเป็นเอฟเฟกต์ที่มาจากภาพยนตร์ หรือซีรีส์ ยอดฮิตด้วย 

ปัจจัยที่ทำให้ไทยถูกเลือก และผลกระทบทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

จริงๆ แล้ว ผู้กำกับ Mike White เคยมีแผนถ่ายทำซีรีส์นี้ที่ญี่ปุ่น แต่สุดท้ายเขาเลือกประเทศไทย เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากมาตรการ Incentive ของรัฐบาลไทย ซึ่งให้เงินคืนสูงถึง 20% ของค่าใช้จ่ายการถ่ายทำในประเทศ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีจุดแข็งด้านธรรมชาติอันสวยงาม สถานที่ถ่ายทำที่หลากหลาย และทีมงานระดับมืออาชีพที่สามารถรองรับการถ่ายทำระดับนานาชาติได้อย่างดี 

สำหรับมาตรการ Incentive นั้น กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศจะได้รับเงินคืนในอัตรา 15-30% สำหรับกองถ่ายที่ลงทุน 50 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับการจ้างงานทีมงานไทยและการถ่ายทำในเมืองรอง ซึ่งที่ผ่านมา 1 เดือน ในปี 2568 มีภาพยนตร์ต่างประเทศที่มีงบประมาณลงทุนขนาดกลาง และใหญ่ ที่เข้าร่วมมาตรการ Incentive และถ่ายทำในไทยแล้ว มากกว่า 10 เรื่อง

จาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การถ่ายทำซีซันที่ 3 ใช้สถานที่ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ปทุมธานี และพังงา โดยมีเงินลงทุนมากกว่า 1,100 ล้านบาท และสร้างงานให้ทีมงานชาวไทยกว่า 300 ราย ทั้งนี้ คาดว่าการออกฉายของซีรีส์จะช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแสตามรอยซีรีส์ คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในฮาวายและซิซิลี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากหลังจากซีรีส์ออกอากาศ

มาริษา สุโกศล นันท์ภักดี ประธานคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ยังกล่าวว่า เนื้อหาของซีรีส์ซึ่งมีการสำรวจประเด็นทางจิตวิญญาณและพุทธศาสนา อาจช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณอีกด้วย

นักแสดงดังไทย ที่คาดว่าดึงแฟนๆ มาเที่ยวบ้านเกิด 

นอกจากฉากหลัง สถานที่ท่องเที่ยวไทยแล้ว ยังมีการร่วมแสดงของนักแสดงไทย ไม่ว่าจะเป็นครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน  รับบทเป็น "ศรีตะลา" หนึ่งในเจ้าของ The White Lotus, ดอม เหตระกูล พนักงานโรงแรม, สุทธิชัย หยุ่น  รับบทเป็นพระสงฆ์, เทม เมธี ทับทิมทอง และ ลิซ่า ‘ลลิษา มโนบาล’ หรือ Lisa Blackpink ไอดอลเกาหลีชาวไทย ในบท  “มุก” 

ในช่วงปีที่ผ่านมา ภาพถ่ายของทีมงานที่กำลังถ่ายทำบนเกาะท่องเที่ยวของไทยถูกแชร์อย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนคลับของ ‘ลิซ่า’ ซึ่งเมื่อมีข่าวลือว่าเธออาจมีบทบาทในซีรีส์นี้ การที่ลิซ่าเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลสูงอาจดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นแฟนคลับ เช่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ให้มาเยือนไทยมากขึ้นด้วย

ปัจจัยทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า The White Lotus ซีซันที่ 3 ไม่เพียงแต่จะเป็นซีรีส์ยอดฮิตเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงแนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยในระดับโลก ด้วยมาตรการจูงใจ การส่งเสริมภาพลักษณ์ผ่านสื่อบันเทิง และความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวไทย ประเทศไทยมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากมาเยือนหลังจากชมซีรีส์นี้