
ผ่านมาแล้วมากกว่า 60 ปี ที่โลกได้บันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ช็อกโลก อย่าง การลอบสังหารประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคเนดี้ ที่ทำให้โลกตั้งคำถามมากมาย ถึงเงื่อนงำของการปลิดชีพประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 35 ที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อเอกสารลับ เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ถูกเปิดเผยเพิ่มเติม จากคำสั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นสิ่งที่ช่วยไขข้อกระจ่างที่ประชาชนเฝ้าตั้งคำถามถึงรัฐบาลมานานมากกว่าครึ่งทศวรรษหรือไม่
JFK คือใคร ?
จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี้ หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า JFK เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 1917 เป็นบุตรชายของโจเซฟ พี เคนเนดี้ ซีเนียนร์ และโรส เอลิซาเบธ ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี้ เป็นลูกชายคนที่ 2 จากพี่น้องทั้งหมด 9 คน
ปี 1940 เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และปีถัดมา ก็ได้เข้าร่วมกองทัพเรือสหรัฐฯ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนทำให้ได้รับเหรียญเกียรติยศ จากความกล้าหาญที่เขาได้ช่วยเหลือเพื่อนของเขา ขณะที่ เรือ PT-109 ที่เขาควบคุม ถูกโจมตี
JFK เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย ที่เป็นทั้งนักธุรกิจ และนักการเมือง ทำให้เขาได้ซึมซับสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ และเมื่อพี่ชายของเขา โจเซฟ แพททริก เคนเนดี้ จูเนียร์ ผู้ถูกตระกูลวางไว้ว่า จะส่งเสริมให้ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเสียชีวิตในสงคราม JFK จึงได้ก้าวเข้าสู่วงการการเมือง
เขาเริ่มต้นบทบาทอาชีพนักการเมือง ด้วยการเป็นตัวแทนของผู้ใช้แรงงาน เขตบอสตัน ในรัฐสภาสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1947-1953 หลังจากนั้น ก็ได้ดำรงตำแหน่งวุฒสมาชิกสหรัฐฯ ประจำรัฐแมสซาชูเซตส์ ช่วงปี 1953-1960 ก่อนจะชนะเลือกตั้ง และก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 35 ในปี 1961 ซึ่งถือได้ว่า เป็นผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง ที่อายุน้อยที่สุดของสหรัฐฯ
ด้วยความที่เป็นคนหนุ่ม หน้าตา บุคลิกดี และวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล จึงทำให้เขาได้รับความนิยมอย่างมากจากสาธารณชน นโยบายของเขาหลายอย่าง มักส่งเสริมความเท่าเทียม
แม้ว่า จะดำรงตำแหน่งในช่วงสงครามเย็น แต่เขาก็มักจะเน้นไปใช้วิธีการเจรจามากกว่าใช้ความรุนแรงทางทหาร

สรุปข่าว
ลอบสังหาร ปธน. เหตุการณ์ช็อกโลก
หลังจากดำรงตำแหน่งได้ราวกว่า 2 ปี เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น กับผู้นำหนุ่ม อนาคตไกลคนนี้
ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 ขณะที่ JFK และแจ็กเกอรีน เคนเนดี้ ภรรยาของเขา กำลังนั่งรถเปิดประทุน เพื่อทักทายประชาชน ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการหาเสียง เพื่อเตรียมความพร้อมเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา
กระสุนปริศนาก็ได้พุ่งเข้าที่ลำคอ และศรีษะของ JFK เมื่อเวลา 12.30 น. วินาทีที่ผู้คนต่างรับรู้ว่า ประธานาธิบดีถูกยิง ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นทันที
JFK ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลปาร์คแลนด์แบบเร็วที่สุด แต่ต่อมา หลังเกิดเหตุได้เพียง 30 นาที ก็มีการประกาศว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 35 เสียชีวิต ด้วยวัย 46 ปี
เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการลอบสังหารผู้นำประเทศ ที่มีพยานเป็นจำนวนมาก
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมชายต้องสงสัย ที่ก่อเหตุรายนี้ คือ “ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์” แต่เขาก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และบอกว่า เขาตกเป็นแพะรับบาปของคดีนี้
แต่ก่อนที่จะได้พิสูจน์ความจริง ว่าเกิดอะไรขึ้น แรงจูงใจคืออะไร ออสวอลด์ ก็ถูกยิงเสียชีวิตโดย “แจ็ก รูบี้” หลังเกิดเหตุลอบสังหารได้เพียงแค่ 2 วัน ก่อนที่ออสวอลด์จะถูกนำตัวไปดำเนินคดี
ทางด้าน “แจ็ก รูบี้” ถูกตัดสินประหารชีวิต จากข้อหาฆาตกรรมออสวอร์ด ก่อนจะเสียชีวิตในปี 1967 จากโรคมะเร็ง
ทฤษฎีสมคบคิด ปริศนาที่คาใจชาวอเมริกัน
บุคคลที่เกี่ยวข้อง และถูกมองว่าจะเป็นเบาะแสในการไขคดีลอบสังหาร JFK ต่างก็เสียชีวิตหลังเกิดเหตุได้ไม่นาน จนทำให้ชาวอเมริกันต่างตั้งคำถาม และก่อให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อว่า CIA อยู่เบื้องหลังการสังหารครั้งนี้ เพราะมีรายงานว่า JFK และ CIA มักมีความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน, การเชื่อว่า ออสวอลด์ไม่ได้ลงมือแค่คนเดียว เขาเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งของการสังหารนี้, การเชื่อมโยงกับกลุ่มมาเฟีย ที่เสียผลประโยชน์จากนโยบาย JFK หรือแม้กระทั่งเรื่องชู้สาว เป็นต้น
แต่ทฤษฎีทั้งหมดที่กล่าวมานี้เหล่านี้ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่า เป็นเรื่องจริง
เผยแพร่เอกสารลับ คดี JFK ต่อสาธารณชน
จนกระทั่ง “ทรัมป์” ออกคำสั่งให้เปิดเผยเอกสารการสืบสวนที่เก็บไว้นานกว่า 60 ปี ต่อสาธารณชน ก็ทำให้ผู้คนหันกลับมาสนใจคดีนี้อีกครั้ง ว่า ภายในเอกสารดังกล่าวนั้น ระบุอะไรไว้บ้าง ซึ่งนั่น อาจจะหักล้างกับทฤษฎีสมคิดต่าง ๆ ที่มีอยู่
อ่านเอกสารไฟล์คดี JFK ทั้งหมดได้ที่นี่:
https://www.archives.gov/research/jfk/release-2025
เอกสารมากกว่า 80,000 หน้า ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีลอบสังหาร JFK ถูกปล่อยออกมาเพิ่มเติมล่าสุด แม้จะไม่ได้มีอะไรใหม่เพิ่มเติมมากนัก จากสิ่งที่เราเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ แต่สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง ทั้ง BBC, ABC และ Al Jazeera ได้สรุปประเด็นสำคัญออกมา ดังนี้
1.เอกสารชุดนี้ ทำให้รู้เรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ออสวอร์ด” มากขึ้น มีการยืนยันว่า เขาได้เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหภาพโซเวียต และคิวบาในเม็กซิโก ซิตี้ และ CIA ได้ติดตามชีวิตของออสวอร์ดมาอย่างยาวนาน ก่อนจะสังหาร JFK บางรายงาน ระบุว่า เขาต้องการสังหารประธานาธิบดี ขณะอยู่เม็กซิโก
2.เปิดเผยวิธีการทำงานของ CIA เอกสารบางส่วนระบุถึงการทำงานของ CIA และวิธีการรวบรวมข้อมูลช่วงสงครามเย็น ก่อนที่ JFK จะเสียชีวิต มีการระบุว่า พวกเขาดักฟังทางโทรศัพท์สถานทูตโซเวียต และคิวบา ทำให้ทราบถึงการเคลื่อนไหวของออสวอร์ด
3.เผยความสัมพันธ์ JFK กับ CIA เอกสารยังเปิดเผยถึงบันทึกของผู้ช่วยเคเนดี้ ที่เตือนว่า CIA มีอิทธิพลมากเกินไปต่อนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นระหว่าง JFK และ CIA
ทั้งนี้ เอกสารสอบสวนคดีนี้ ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2017 ในสมัยรัฐบาลทรัมป์ ก่อนจะเปิดเผยอีกครั้ง ในสมัยรัฐบาลโจ ไบเดน และล่าสุด ก็กลับมาเปิดเผยในสมัยทรัมป์อีกครั้ง ซึ่ง ณ ตอนนี้ มีการเผยแพร่ไปสู่สาธารณชนกว่า 99% แล้ว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/articles/cly676jp291o
https://www.aljazeera.com/news/2025/3/20/new-jfk-files-what-was-revealed-about-oswald-cia-operations
https://news.sky.com/story/what-we-know-about-newly-released-jfk-assassination-files-13331742
https://abcnews.go.com/US/jfk-files-key-takeaways-learned-didnt/story?id=119939692
ที่มาข้อมูล : BBC, Al Jazeera, SKY News, Hindustan times, ABC News, Wikipedia
ที่มารูปภาพ : NARA, Freepik

พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์