
ดูข่าวย้อนดูตัวจากเคส “ ดิว อริสรา” กระจกสะท้อนพฤติกรรมคนไทยใช้เงินเกินตัว อวดหรูบนโซเชียล วิเคราะห์สาเหตุทำหนี้คนไทยท่วม พร้อมเช็กพฤติกรรมการใช้จ่าย ก่อนสายเกินไป เรื่องนี้จะโทษคนไทยอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการศึกษาไทยแทบไม่เคยสอน “วินัยการเงิน”
วิกฤตเศรษฐกิจไทย ณ ปัจจุบัน 1 ในสาเหตุสำคัญ เพราะไทยกำลังเผชิญกับวิกฤต หนี้ท่วม ทั้ง หนี้สาธารณะ หนี้ธุรกิจ และ หนี้ครัวเรือน โดย 1 ในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด หนี้ครัวเรือน เพิ่มสูงสุดในรอบ 16 ปี คือ นิสัย ใช้จ่ายเงินเกินตัว ของคนไทย
ผลสำรวจพบคนไทย “ ยอมติดหนี้ ขอแค่ได้ ติดหรู ”
ผลวิจัยของ วิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล (CMMU) พบว่า คนไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯมีพฤติกรรม “Luxumer” ติดหรู พร้อมจ่ายเพื่อสินค้าแพงแม้จะไม่ได้ร่ำรวย ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความรู้สึกมากกว่าความคุ้มค่า โดยมองว่ามันเป็นการลงทุนทางจิตใจและเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต เช่น กระเป๋า แบรนด์เนม หรือ นาฬิกาหรู
ประกอบกับความเครียดจากการเสพโซเชียลตัวจุดชนวนให้ ‘ช้อปเทอราปี’
เวลาเห็นคนสำเร็จ ติดหรู ก็กดดัน ตัวเองทำไม ยังทำไม่ได้แบบเขา สุดท้ายก็แก้ปัญหาโดยการ ช้อปปิ้ง กรมสุขภาพจิต พบปี 66 พบมีผู้ป่วยจิตเวชจากความเครียด ซึมเศร้า จากความกดดันบนโซเชียลมีเดีย เป็นหนี้เพิ่มขึ้น อยู่ที่กว่า 4 ล้านคน คนทั่วประเทศ สะท้อนว่าการ "ติดแกลม" เป็นผลจาก การเปรียบเทียบแข่งขัน ให้คุณค่ากันบนโซเชียล แบบผิดๆ งานต้องเริศ เงินต้องสูง กินต้องหรู อยู่ต้องแพง ยึดติดความสมบูรณ์ลวงตา มากกว่า ความมั่นคงทางการเงิน นี่คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่กำลังเผชิญอยู่แบบไม่รู้ตัว!
ติดแกลมไม่ผิด แต่รายได้ต้องพอ
แต่ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ " รายได้ ไม่พอติดแกลม " ผู้จัดการใหญ่ ‘เครดิตบูโร’ เผยว่า ปัจจุบัน คนไทยมี “สุขภาพการเงินดี” แค่ 25% ขณะที่หนี้ครัวเรือน ปี 67 คิดเป็น 89% ของ GDP ของทั้งประเทศ เฉลี่ยอยู่ที่ 606,378 บาท / ครอบครัว
โทษคนไทยอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการศึกษาไทย ก็ไม่เคยสอน
เพราะประเทศไทยไม่เคยมี “วิชาการเงินและการวางแผนภาษี” บรรจุในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการมาแต่อ้อนแต่ออด (หลายแห่งเพิ่งมีไม่กี่ปีที่ผ่านมา) เรื่องการเงินจึงดูไกลตัว และ เพิ่งจะถูกให้ความสำคัญเมื่อไม่กี่ 10 ปี ที่ผ่านมา จากกูรูบนโลกออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ทันกิน เมื่อผลิตผลของคนที่เรียนจบไปก่อน ในช่วงหลังยุค วิกฤตต้มยำกุ้ง ที่เศรษฐกิจไม่อู้ฟู่ คนได้เริ่มต้นใช้ชีวิตแบบผิดๆ หลังเรียนจบกันไปแล้ว ส่งผลให้มีคนไทยจำนวนมาก วัยทำงานขณะนี้ จึงแทบไม่เคยวางแผนทางการเงินเลย
และเมื่อประกอบกับการเข้ามาของยุค “โซเชียลมีเดีย” สังคมอวดความร่ำรวย ยึดติดกับความสำเร็จแบบผิดๆ มองหาความมั่งคั่งทางวัตถุ เพราะขาดความรัก และการตระหนักรู้ด้านการใช้จ่าย เผลอรู้ตัวอีกที ไร้เงินเก็บ แบกหนี้สิน เกินตัวไปเสียแล้ว
นอกจากทำลายอนาคตตัวเอง ยังกำลังทำลาย โครงสร้างทางเศรษฐกิจไทย
เพราะเมื่อเป็นหนี้เสีย NPLs ก็จะเป็นภาระของธนาคาร ปล่อยกู้ให้รายอื่นได้ยากขึ้น คนจะไปกู้มาลงทุน ก็ทำได้ยาก ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจไทย กลายเป็นปัญหาสังคม นอกจากหนี้ท่วมชีวิต ไร้เงินเก็บ ในท้ายสุด “ แก่ก่อนรวย” รัฐต้องช่วยอุ้ ซ้ำร้ายบางรายติดกับดัก “หนี้นอกระบบ” ต้องมีชีวิตแบบหลบซ่อน เพราะเข้าถึงสถาบันการเงินไม่ได้ เพราะมีหนี้ค้างจ่ายอยู่แล้ว แน่นอนว่ามาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะ หากรัฐเข้ามาช่วยคนที่มีหนี้เสียทุกครั้งไป จะกลายเป็นการ สร้างนิสัย ก่อหนี้เกินตัว อย่างไม่รับผิดชอบ ให้คนเหล่านี้มากขึ้น เห็นไหมว่าการใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นหนี้ ส่งผลเสียมากแค่ไหน
ลองเช็กตัวเอง! “ติดแกลมเกินตัว” มากไปหรือยัง?
(ถ้าเข้าข่าย ≥ 3 ข้อ = เสี่ยงใช้จ่ายเกินตัว)
1. กำหนดคุณค่าตัวเองขึ้นกับของแบรนด์เนม
2. รูดบัตรเต็มวงเงิน ผ่อนขั้นต่ำ กับสินค้าฟุ่มเฟือย
3. อิจฉาคนอื่นเมื่อเห็นของหรู
4. ซื้อหรือเช่าของหรูเพื่อโพสต์ลงโซเชียลเท่านั้น
5. วางแผนเที่ยวต่างประเทศ ทริปแพงๆ โดยใช้เงินอนาคต (บัตรเครดิต )
ทางแก้แบบจริงใจ ไม่โลกสวย
• หยุดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และล้างหนี้ดอกเบี้ยแพงก่อน
• เริ่มออมก่อนใช้ 10% ทุกเดือน
• ลงทุนเพิ่มอีก 5% ผ่านกองทุนรวม
• เปลี่ยน “ความอยาก” เป็น “เป้าหมาย” เช่น ตั้งเป้าเก็บเงินไปดูแสงเหนือ แทนการรูดบัตรเครดิต เดี๋ยวนี้
สุดท้ายการติดหรู ไม่ใช่เรื่องผิด หากเรามีความสามารถทางการเงิน แต่ถ้าไม่ใช่ อยากให้จำไว้
…ไม่มีใครสนใจเราขนาดนั้น เกิน 10 นาที เห็นสตอรี่คุณเขาก็ลืมแล้ว...
…ไม่มีใครสนใจเราขนาดนั้น เกิน 10 นาที เห็นสตอรี่คุณเขาก็ลืมแล้ว...
.
“อย่าให้ความหรูหราแค่วันนี้ กลายเป็นภาระคุณทั้งชีวิตในวันข้างหน้า”

สรุปข่าว
เคสดิว อริสรา สะท้อนพฤติกรรมคนไทยจำนวนมากที่ใช้เงินเกินตัวเพื่อชีวิตติดแกลม อวดหรูบนโซเชียล จนหนี้ท่วมไม่รู้ตัว ขณะที่ระบบการศึกษาไทยไม่เคยสอนวินัยการเงิน การเงินกลายเป็นเรื่องไกลตัวที่เพิ่งมาเรียนรู้กันจากโซเชียล พร้อมแนะวิธีเช็กพฤติกรรม 5 ข้อ หากเข้าข่าย รีบปรับทัศนคติและการใช้จ่ายโดยด่วน ก่อนสายเกินแก้

ณัฏฐ์อาภา ผ่องทิพาภรณ์
จ๊ะโอ๋