“กระทรวงศึกษาธิการ” ของสหรัฐฯ สำคัญอย่างไร ถืองบมหาศาลแต่ไม่คุ้ม แล้วทรัมป์สั่งปิดได้จริงไหม

กระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ มีงบประมาณ 9 ล้านล้านบาท มีพนักงาน 4,400 คน

หน้าที่หลัก คือ ให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา รวบรวมข้อมูลจากโรงเรียนในประเทศ ตรวจสอบปัญหาใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นด้านการศึกษา และบังคับใช้กฎหมายด้านการศึกษา โดยเฉพาะการป้องกันการแบ่งแยกเชื้อชาติ สีผิว และเพศสภาพ

โครงการใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ คือ โครงการช่วยเหลือทุนการศึกษามูลค่าหลายแสนล้านบาท โครงการเงินกู้เพื่อการศึกษา แก่นักเรียน 13 ล้านคนทั่วประเทศ 

หน้าที่อันยิ่งใหญ่ ก็ถูกวิจารณ์อย่างใหญ่ยิ่ง เพราะหลายคนมองว่า นโยบายการศึกษาควรเป็นรัฐต่าง ๆ และรัฐบาลท้องถิ่นที่เข้ามาดูแลเอง มากกว่ารัฐบาลกลาง 

ทรัมป์เองมองว่า สหรัฐฯ ทุ่มงบการศึกษาไปมากกว่าชาติใดในโลก แต่อันดับของนักเรียน กลับตกต่ำ ไม่คุ้มค่า จึงควรคืนการบริหารการศึกษาไปให้รัฐบาลท้องถิ่นเสีย

แต่อีกด้านก็มองว่า กระทรวงศึกษาธิการมีบทบาทสำคัญต่อการพิทักษ์ความเท่าเทียมทางการศึกษา และความช่วยเหลือต่อโรงเรียนต่าง ๆ 

แล้วทรัมป์จะยุบกระทรวงศึกษาธิการได้จริงหรือ หลังลงนามในคำสั่งพิเศษ 

ก็ต้องอธิบายว่า คำสั่งพิเศษก็คือคำสั่งพิเศษ แต่การจะยุบกระทรวงใด ๆ จะต้องได้รับการลงมติเห็นชอบในระดับรัฐสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่จริงๆ แล้ว เคยมีความพยายามทำมาหลายสิบปี แต่ไม่เคยสำเร็จ  

ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใด ยุบกระทรวงใด ๆ ที่กำหนดไว้ในกฎหมายสหรัฐฯได้ 

ดังนั้น คำสั่งพิเศษของทรัมป์ จึงทำได้เพียงการสั่งให้รัฐมนตรีศึกษาธิการ พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อปิดกระทรวงเสีย 

แล้วตอนนี้ นักเรียนทั่วสหรัฐฯ จะเจอกับอะไร

ต้องบอกว่า กระทรวงยังไม่ปิด พนักงานยังทำงานอยู่ แต่อาจมีการโยกย้ายบ้าง ดังนั้น นักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนรัฐ 50 ล้านแห่งทั่วประเทศ จะไม่เจอการเปลี่ยนแปลงอะไร   เพราะงบการศึกษาในปีนี้ ถูกกำหนดไว้แล้ว  

แต่ในระยะยาว โครงการด้านการศึกษาที่ยึดโยงกับรัฐบาลกลาง อาจถูกเปลี่ยน หรือลดน้อยลงได้  

ส่วนโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษานั้น จะเจอกับอนาคตที่ไม่แน่นอน มีหนี้สะสมอยู่ 1.69 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีนักเรียนที่กู้เรียน 43 ล้านคน รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย 19 ล้านคน