มองผ่านผลสำรวจ ปัจจัยอะไรบ้างที่ฉุดอัตราการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง?

วันเลือกตั้งตรงกับวันเสาร์ กระทบอัตราการใช้สิทธิ

ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 68.99 ของกลุ่มตัวอย่างมองว่าการที่วันเลือกตั้งตรงกับวันเสาร์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่สะดวกเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่อีกร้อยละ 47.18 ระบุว่าเป็นเพราะภาระงานในวันดังกล่าว โดยเฉพาะประชาชนที่ทำงานในภาคเอกชนที่ยังคงต้องปฏิบัติงานตามปกติ นอกจากนี้ การขาดการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประชาชนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้เท่าที่ควร

ประชาชนเริ่มมองหาผู้นำที่เข้าใจปัญหาพื้นที่

การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้สะท้อนแนวคิดใหม่ ๆ ของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกผู้นำ โดยผลสำรวจระบุว่าร้อยละ 52.89 ของกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นแตกต่างจากการเลือกตั้งระดับชาติ เนื่องจากผู้สมัครเป็นคนในพื้นที่ ทำให้เข้าใจปัญหาและมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ประชาชนให้ความสำคัญมากกว่านโยบายกว้าง ๆ ของพรรคการเมือง

การประชาสัมพันธ์ของ กกต. ถูกตั้งคำถาม

น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับผลสำรวจครั้งนี้ว่า มีประชาชนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยต่อบทบาทของ กกต. ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ที่อาจไม่เพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนขาดข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และนำไปสู่จำนวนผู้มาใช้สิทธิที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

การเลือกตั้งสะท้อนความท้าทายของ กกต.

น.ส.อัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่าหากพิจารณาจากอัตราการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 63.28 เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ซึ่งมีอัตราการใช้สิทธิร้อยละ 62.86 จะพบว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิลดลงร้อยละ 4.86 ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาในการกระตุ้นให้ประชาชนเข้าร่วมกระบวนการประชาธิปไตยอย่างแข็งขัน นอกจากนี้ ประชาชนที่ไม่ไปใช้สิทธิอาจถูกจำกัดสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายเป็นเวลา 2 ปี เว้นแต่จะมีการแจ้งเหตุจำเป็นตามระยะเวลาที่กำหนด

บัตรเสียจำนวนมาก สะท้อนปัญหาการสื่อสาร

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจจากการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ การพบว่ามีบัตรเสียมากถึง 900,000 ใบ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาด้านการสื่อสารและการให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งแก่ประชาชน นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนบางส่วนเลือกกากบาทในช่อง "ไม่ประสงค์ลงคะแนน" ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนของความไม่มั่นใจในตัวผู้สมัคร แม้ว่าผู้สมัครจะมีนโยบายที่ดีหรือสังกัดพรรคการเมืองขนาดใหญ่ แต่ประชาชนยังไม่เชื่อมั่นเพียงพอที่จะลงคะแนนเลือก

-----------------------------------------------

จากผลสำรวจของ "สวนดุสิตโพล" พบว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนถึงหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการใช้สิทธิของประชาชน ตั้งแต่ปัญหาด้านความสะดวกในการเดินทาง วันเลือกตั้งที่ตรงกับวันเสาร์ ไปจนถึงปัญหาด้านการประชาสัมพันธ์ของ กกต. ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควรนำไปพิจารณาปรับปรุงในการเลือกตั้งครั้งถัดไป นอกจากนี้ จำนวนบัตรเสียที่มากเกินไปยังสะท้อนถึงปัญหาด้านการสื่อสารที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ หากต้องการให้การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้และความมั่นใจให้กับประชาชน เพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตยมากขึ้น