
รู้ไหมปี 67 งบค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ สูงถึง 100,000 ล้านบาท จ่ายให้ป่วยจริงรับได้ แต่ถ้างบส่วนหนึ่ง…ถูกจ่ายให้ขบวนการคอร์รัปชั่น ท่ามกลางคนไทยอีกจำนวนมาก ที่เข้าไม่ถึงการรักษาด้วยซ้ำ อย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ได้
เพราะคาดว่า ข้าราชการระดับสูง มีเอี่ยวร่วม 20 ราย ทั้งขบวนการมีกว่าร้อยคน และนี่คือหนึ่งในความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ ของวงการข้าราชการไทย เดี๋ยวสรุปให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของการเปิดโปง
ไม่ได้เริ่มจากการตรวจสอบของรัฐ แต่มาจาก “เสียงร้องเรียน” จากประชาชน ที่ทนเห็นขบวนการทุจริตไม่ไหว

สรุปข่าว
ธนเดช เพ็งสุข สส.พรรคประชาชน โพสต์ผ่าน X ว่าขณะนี้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ “อภิมหาขบวนการโกงยา”ที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยพบว่า บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นผู้ลักลอบนำยาไปขายต่อ
ทำเป็นขบวนการหลายร้อยคน และเกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูง สีเขียว สีขาว สีน้ำตาลอ่อน ทั้งอดีตและปัจจุบัน
นำมาสู่การตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน ตำรวจสอบสวนกลาง ปปท. ปปช. องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และสุดท้ายแถลงข่าวพบว่ามีมูลจริง โดยแบ่งผู้ที่เกี่ยวข้อง ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มผู้มีสิทธิเบิกตรง นายหน้าจัดแจง และบุคลากรในโรงพยาบาล
จะทหารระดับสูงก็ไม่ละเว้น โดยเบื้องต้นพบเป็นข้าราชการระดับสูง ประมาณ 20 คน ที่แม้จะเกษียณไปแล้วก็จะเรียกสอบ เส้นทางการเงินไปถึงใคร คุณเตรียมรับหมายเรียกได้เลย เพราะฉะนั้น ใครที่รู้ว่ากระทำความผิดในวันนี้ให้รีบเดินเข้ามาหาเราจะดีกว่า
เปิดพฤติการณ์คนร้าย โกงมากว่า 10 ปี (แต่ทำไมไม่มีใครรู้?)
ขบวนการ แบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 60 - 70 คน จะมีรถตู้ขนผู้ป่วยมาจาก จ.ลพบุรี มารับการรักษาที่โรงพยาบาลครั้งละ 10-20 คน และขอรับยากลับไปมาก ๆ มาแทบทุกเดือน เป็นยาโรคไม่ติดต่อ ผู้ป่วยต้องใช้ตลอดชีวิตอยู่แล้ว
เบื้องต้น คาดว่าขบวนการนี้จะมีผู้ประทำผิด ร่วม 600 คน มีทั้งข้าราชการระดับกลางถึงสูง ทหาร ,แพทย์ , พยาบาล, เจ้าหน้าที่ธุรการ และผู้ป่วยมีสิทธิเบิกจ่าย
การทำงานแบ่งหน้าที่หลักๆ ออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรก คนไข้ผู้มีสิทธิในการรักษาครอบครัวข้าราชการ เป็นคนเล่นละคร ตบตาหมอ ไปขนยาออกมาเป็นกระสอบ และได้รับเงินค่าจ้าง
กลุ่ม 2 เจ้าหน้าที่รัฐ และ บุคลากรทางการแพทย์ ช่วยให้ขบวนการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ คนในโรงพยาบาล ที่รู้ช่องโหว่ของระบบในโรงพยาบาล ทำให้เล็ดรอดสายตา การตรวจสอบย้อน Post Audit ของโรงพยาบาล
กลุ่ม 3 ดีลเลอร์ยา บริษัทยา มีแต่ได้กับได้ ตัวสั่งการกำหนดใบสั่งยิงยา ว่าตลาดต้องการยาตัวไหน กลุ่มบริษัทจำหน่ายยา มีความเกี่ยวพันกับโรงพยาบาลโดยตรง คือ มีการจ่ายค่าคอมมิชชั่น ให้กับโรงพยาบาลและแพทย์ในรูปแบบต่าง ๆ
โดยจะขายยาให้ รพ. ตามระบบ ก่อนโกงลักลอบขนออกไปฟรี และวนกลับขายให้ประชาชนอีกรอบ มีแต่ได้กับได้
เป็นคนกำกับบทให้ ผู้ป่วยปลอม ว่าต้องเล่นละครแบบใด กินอาหารแบบไหน เพื่อให้ค่าไขมัน น้ำตาลในเลือด พุ่งสูง และ หมอสั่งจ่ายยานอกระบบบัญชี (ตามบริษัทตน) ซึ่งมีราคาแพง
ยาส่วนใหญ่จะเป็นยากลุ่มโรคไม่ติดต่อ-เรื้อรัง หรือกลุ่ม NCD เบาหวาน ความดัน ไขมัน ที่อยู่นอกบัญชียาหลักและมีราคาแพง เพื่อนำไปขายตลาดมืดจะได้ราคาดี ขอได้ในปริมาณมาก เพราะผู้ป่วยโรคนี้จำเป็นต้องใช้ยาเป็นประจำอยู่แล้ว ตลอดชีวิต
ต้นเหตุของการทุจริต “ระบบเบิกจ่ายยาที่ไม่เชื่อมโยงข้อมูล”
ระบบการเบิกจ่ายยาข้าราช มีจุดอ่อนใหญ่ 2 จุด
1. ระบบเบิกจ่ายยาไม่ได้เชื่อมโยงกัน
ข้าราชการสามารถไปหาหมอได้หลายโรงพยาบาล และ ไม่มีใครเคยตรวจสอบว่า รับยาไปหรือยังในเดือนนี้ รับไปเท่าไหร่และกี่รอบ ทำให้เกิดการวนรับยาซ้ำ รายชื่อเดิม โรคเดิม เผื่อขาย
2. ยาราคาแพง เบิกง่ายเกินไป
ยารักษาโรคเรื้อรัง อย่างยาลดไขมัน เบาหวาน และความดัน เป็นกลุ่มที่ถูกโกงหนักที่สุด เพราะมีราคาสูง และ เอาไปขายได้ราคาดี
แต่ยากลุ่มนี้ระบบอนุญาตให้เบิกยาครั้งละมาก ๆเพื่อความสะดวกผู้ป่วยไม่ต้องมาบ่อย ความใจดี ดันกลายเป็นช่องโหว่ ให้คนคดโกง สามารถเอาเปรียบพวกเราได้ง่ายขึ้น
ปลายทาง ขบวนการโกงยา คือที่ไหน?
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ยืนยันรู้แล้วว่ายาเหล่านี้ถูกส่งไปขายที่ไหน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ น่าสงสัยนะว่าทำไมเปิดเผยไม่ได้ หรือว่ามี นายพล นายพัน เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์?
จากข้อมูลขณะนี้พบว่า ขบวนการแบบนี้ ไม่ได้มีแค่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก แต่อาจเกิดขึ้นในโรงพยาบาลอื่นด้วย
คำถามคือขบวนการใหญ่ โกงกันชัดเจนขนาดนี้ สามารถทำได้เป็น 10 ปี ทำไม่ได้แน่ๆ หากไม่มี Last Boss ตัวการใหญ่คนสำคัญ
พันเอกหญิง กอไก่ ถูกเปิดโปงแล้ว 1 ราย
ส.ส.ภูมิ ธนเดช เพ็งสุข พรรคประชาชน เปิดโปงพันเอกหญิง ก. เชื่อว่าตัวการในขบวนการนี้ แต่กำลังถูกปกป้องอยู่เพราะเส้นสายดี คอยดูแลนายทหารระดับสูง เร่งทำหนังสือถึงกระทรวงกลาโหมและแท็กถึง คุณภูมิธรรม ให้เร่งรัดตรวจสอบ
สุดท้ายเราต้องช่วยกันติดตาม กดดัน รักษาผลประโยชน์ภาษีเรา อย่าให้เรื่องเงียบหาย คนทำชั่ว ใช้เส้นสาย หลุดรอดคดีได้ในประเทศไทย ทำลายภาพลักษณ์ข้าราชการ หน้าไม่อาย สูบเงินภาษีประชาชน ข้าราชการด้วยกันเองก็ไม่ควรนิ่งเฉย เพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดการ
รื้อสิทธิ์เบิกจ่ายใหม่ ในอนาคต ป่วยจริง ไม่ได้ทำผิด กลับเดือดร้อน ดังนั้น เรื่องนี้เราควรติดตาม ตรวจสอบต่อ การกวาดล้างจับกุม ผู้ร่วมขบวนการล็อตที่ 2 ว่า จะสาวตัวถึงใครบ้าง เพื่อป้องกันผลประโยชน์ จากภาษีประชาชนคนไทย ที่เอาไปพัฒนาประเทศได้อีกมหาศาล
ที่มาข้อมูล : TNN Online
ที่มารูปภาพ : รพ.ทหารผ่านศึก

ณัฏฐ์อาภา ผ่องทิพาภรณ์
(จ๊ะโอ๋)