
การศึกษาไทยกำลังก้าวไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนาหลักสูตรเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในชั้นเรียนระดับมัธยม เป็นหลักสูตรแรกของประเทศ โดยอบรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยี AI ให้ครูเพื่อถ่ายทอดความรู้ไปสู่นักเรียน ซึ่ง จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทยในการเผชิญกับความท้าทายของโลกดิจิทัล
แพลตฟอร์ม “LEarning analytics for ADaptive Education” หรือ “LEAD Education” เป็นแพลตฟอร์มที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยให้เกิดการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized learning) โดยแพลตฟอร์มจะติดตามพฤติกรรมและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแบบเรียลไทม์ และนำผลการประเมินมาแนะนำเนื้อหาที่เหมาะสมให้แก่ผู้เรียนแต่ละบุคคล ทำให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้และทักษะได้เต็มศักยภาพ แพลตฟอร์มดังกล่าวพัฒนาโดยทีมวิจัยเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทั้งในและนอกห้องเรียน

สรุปข่าว
แพลตฟอร์มดังกล่าวถือเป็นการพัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ สำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ถือเป็นหลักสูตรแรกของประเทศ โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในชั้นเรียน ให้กับคุณครูจำนวน 1,500 คน จาก 750 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่ง เริ่มอบรมไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ภาคเหนือ จำนวน 100 โรงเรียน ระหว่างวันที่ 22 – 23 กุมภาพันธ์ ภาคกลาง จำนวน 200 โรงเรียน ระหว่างวันที่ 7 – 10 มีนาคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จำนวน 150 โรงเรียน ระหว่างวันที่ 14 – 17 มีนาคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จำนวน 150 โรงเรียน ระหว่างวันที่ 21 – 22 มีนาคม ภาคใต้ จำนวน 100 โรงเรียน ระหว่างวันที่ 3 – 4 เมษายน ภาคตะวันออก จำนวน 50 โรงเรียน ระหว่างวันที่ 8 – 9 เมษายน นี้
โดยครูเหล่านี้จะเป็นแกนนำในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปยังนักเรียนกว่า 45,000 คน ซึ่ง จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทยในการเผชิญกับความท้าทายของโลกดิจิทัล รวมทั้งเป็นก้าวสำคัญในการนำวิชาที่ทันสมัยไปใช้ในระบบธนาคารหน่วยกิต และ E-Portfolio ต่อไปในอนาคต ขณะที่ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช. กล่าวว่า การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ LEAD Education:AI ถือเป็นการขับเคลื่อนการสอนปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในสถาบัน การศึกษา ซึ่ง สอดคล้องกับนโยบาย “อว. for AI” ที่มุ่งพัฒนาทักษะและสร้างบุคลากรด้านปัญญาประดิษฐ์
ด้านรองศาสตราจารย์ ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการ สสวท. มองว่า การอบรมครั้งนี้ จะทำให้ครูสามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการสอน นับว่าช่วยเปิดโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศเข้าถึงการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ สำหรับการออกแบบเนื้อหาหลักสูตรการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียนของ สสวท. หลักสูตร AI ในระดับมัธยมต้น: AI เบื้องต้น, Machine Learning, NLP, Generative AI, จริยธรรม AI ระดับมัธยมปลาย: วิวัฒนาการ AI, ปัญหา AI, Supervised Learning, NLP, Computer Vision หลักสูตร AI ระดับมัธยมปลายสามารถเทียบโอนเข้าสู่ระบบ Micro-Credentials และ Credit Bank ทั้งนี้ สสวท. ได้จัดทีมวิทยากร 47 คน จากนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย และครูแกนนำ จากทั่วประเทศ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่คุณครูผู้เข้าร่วมอบรมอย่างเต็มศักยภาพ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธอการมีนโยบายนำ AI มาช่วยในการเรียนการสอน ซึ่งมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในรูปแบบการนำ AI ไปใช้อย่างรู้เท่าทัน “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” และการพัฒนาให้นักเรียนสร้าง AI เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตามความถนัด ความสนใจ ซึ่ง บทบาทสำคัญในภาคการศึกษา AI เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาทักษะและศักยภาพของผู้เรียน ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21 ดังนั้น การพัฒนาหลักสูตรและส่งเสริมการเรียนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียน จะเป็นการสร้างพลเมืองดิจิทัลที่มีความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป
จีนพลิกโฉมการศึกษาด้วยหลักสูตร AI
ทั้งนี้ ในเอเชียเริ่มมีการพัฒนาหลักสูตร AI ในชั้นเรียนแล้ว เช่น ที่ประเทศจีน กระทรวงศึกษาธิการจีน มีนโยบายส่งเสริมการศึกษา AI ในห้องเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตั้งแต่ปี 2567 และตั้งเป้าให้มีหลักสูตรการศึกษา AI อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2573 โดยนำ AI มาบูรณาการกับการเรียนการสอนทั้งด้านสุนทรียศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และกีฬา เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และทักษะเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกการทำงานยุค AI ต่อไป
เมื่อเร็วๆ นี้ หวย จิ้นเผิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของจีน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว เกี่ยวกับความก้าวหน้าของ AI อย่างเช่น การเปิดตัว แอปพลิเคชั่น DeepSeek แชทบอทผู้ช่วย AI ของจีนที่เปิดตัวล่าสุดและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยมองว่าการปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่นำโดย AI จะสร้างโอกาสทางการศึกษาครั้งใหญ่ และจีนพร้อมที่จะเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยจีนมีแผนที่จะเสริมสร้างการพัฒนาหลักสูตรหลัก คณะวิชาที่สำคัญ และตำราเรียนที่จำเป็นในสาขาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่ง เป็นสาขาวิชาพื้นฐานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นอกจากนี้ จะมีการบ่มเพาะผู้มีความรู้ความสามารถในสาขาวิชาเกิดใหม่และสหวิทยาการ รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระหว่างอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ และการศึกษาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น สำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จีนจะเผยแพร่สมุดปกขาวเกี่ยวกับการศึกษาปัญญาประดิษฐ์ในปี 2568 นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเสริมสร้างความรู้และทักษะของนักเรียนในยุคดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ทั้งนี้ ประเทศจีนมีจำนวนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาราว 4 ล้านคน และนักศึกษาระดับปริญญาตรีในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยราว 39 ล้านคน
ทั้งนี้ การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาของแต่ละประเทศเพื่อก้าวไปสู่สังคมที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติ เป็นเรื่องท้าทายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะนำร่อง ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเหล่านั้นไปสู่ผู้เรียนเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร เพราะเทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่การเริ่มต้นเพื่อรับมือโลกดิจิทัลนั้นถือว่ามาถูกทางแล้ว
เรียบเรียงโดย : กาญธิกา อังคณิต
ที่มาข้อมูล : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค), ซินหัว
ที่มาภาพ : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค),รอยเตอร์
ที่มาข้อมูล : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค), ซินหัว
ที่มารูปภาพ : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค),รอยเตอร์

Kanthika mrean Angkhanit
(Kanthika)