
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงดุเดือดต่อเนื่อง เมื่อล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% แล้ว และนั่นอาจจะส่งผลให้ผู้บริโภค หรือแม้แต่ภาคธุรกิจในสหรัฐฯ ต้องซื้อสินค้าราคาแพงขึ้น
เนื่องจากสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ นำเข้ามาจากประเทศจีน ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ยันเครื่องแต่งกาย

สรุปข่าว
---ขึ้นภาษี อาจทำชาวอเมริกันเจ็บ---
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ออกมาเตือนว่า การที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน การทำให้ภาคธุรกิจ และผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากขึ้นอีก หลังจากเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงอยู่ตลอดไม่กี่ปีก่อนหน้านี้
เพราะผู้ที่จะต้องจ่ายภาษีศุลกากรจริง ๆ คือบริษัทสหรัฐฯ ที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้ ไม่ใช่ประเทศต้นทาง นั่นส่งผลให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น และลงเอยด้วยการที่ผู้บริโภคต้องแบกภาระนี้
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจีน 100% และผลิตภัณฑ์เหล็กและอลูมิเนียม 25% และยังประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งจะมีผลกับทั้ง 2 ประเทศในวันที่ 1 มีนาคม
---สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจีน 4 แสนล้านดอลลาร์---
ปี 2024 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากจีน คิดเป็นมูลค่า 401,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือสื่อสาร ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ, โทรทัศน์ และดาวเทียม คิดเป็น 12% ของสินค้านำเข้า หรือประมาณ 47,000 ล้านดอลลาร์
รองลงมาเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ได้แก่ แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ คิดเป็นมูลค่า 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ในหมวดหมู่นี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ อย่างเซมิคอนดักและตามมาด้วยสินค้าเบ็ดเตล็ด อย่าง ของเล่น, เครื่องประดับ หรืออุปกรณ์กีฬา คิดเป็นมูลค่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ สินค้าอีกประเภทหนึ่ง อย่าง “รองเท้า” ก็มีแนวโน้มที่ราคาสูงขึ้น อุตสาหกรรมรองเท้าต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรเป็นพิเศษ เนื่องจากรองเท้าประมาณ 99% มาจากจีนและเวียดนาม
“เราต้องจ่ายภาษีศุลกากร ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องเสียภาษีนี้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แหล่งรายได้ภายนอก พวกมันมาจากภายในประเทศ” แมตต์ พรีสต์ CEO สมาคมการค้าและธุรกิจรองเท้า หรือ FDRA กล่าวกับสำนักข่าว CNN
---คนจนรายได้ลดมากกว่าคนรวย---
กลุ่มที่น่าจะได้รับผลกระทบมากสุดจากการขึ้นภาษีครั้งนี้ เป็นกลุ่มชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ เนื่องจากสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีราคาสูงขึ้น โดยเฉลี่ยคาดว่า ครัวเรือนสหรัฐฯ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1,200 ดอลลาร์ เนื่องจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน, เม็กซิโก และแคนาดา
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า กลุ่มผู้มีรายได้น้อย รายได้จะลดลงราว 2.7% เนื่องจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ กลุ่มมหาเศรษฐีจะสูญเสียรายได้ไปแค่ 0.6%
อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าจะไม่ขึ้นทันที หลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษี เนื่องจากผู้ขายยังคงมีสต็อกสินค้าที่นำเข้ามาก่อนหน้านี้จากจจีนอยู่ แต่เมื่อคลังสินค้าเหล่านี้หมดลง ราคาสินค้ารอบใหม่ก็จะมาทันที
ผู้เชี่ยวชาญ เตือนด้วยว่า การที่ราคาสินค้าสูงขึ้นอาจทำให้เกิดการบริโภคน้อยลง, หนี้บัตรเครดิตสูงขึ้น รวมถึงเกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น ซ้ำเติมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อมาหลายปี ให้แย่ลงไปอีก
แปล-เรียบเรียง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2025/02/04/economy/tariff-increased-costs-china

Pornwasa Pakdaungchan
(Pornwasa Pakdaungchan)