แม่เลี้ยงเดี่ยวตกตึกชั้น 18 ความสูญเสียที่ทิ้งคำถามสู่สังคม

- โศกนาฏกรรมกลางโรงพยาบาลปทุมธานี -

เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นที่โรงพยาบาลปทุมธานี เมื่อ น.ส.สายสุนีย์ แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 36 ปี พลัดตกจากชั้น 18 ของตึกใหม่ในโรงพยาบาล เสียชีวิตบริเวณชั้น 2 ของอาคาร เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่งในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าเธอเพิ่งคลอดลูกแฝดเพียง 5 วันก่อนหน้านี้

จากการสอบถามข้อมูล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระบุว่า น.ส.สายสุนีย์ มาคลอดลูกแฝดหญิงเมื่อวันที่ 22 มกราคม และเพิ่งนำลูกทั้งสองมารักษาอาการโลหิตจางในวันที่ 24 มกราคม ท่ามกลางความรับผิดชอบอันหนักอึ้งของการดูแลลูกทั้งสี่คน เธอแสดงอาการเครียดอย่างชัดเจนก่อนเกิดเหตุ

- ความเครียดที่สะสม เงื่อนไขของชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยว -

เพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า น.ส.สายสุนีย์ใช้ชีวิตในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดูแลลูกเล็ก 2 คน และเพิ่งเพิ่มภาระในการเลี้ยงดูทารกแฝดที่คลอดก่อนกำหนด ความเครียดสะสมจากการไม่มีผู้ช่วยเหลือในครอบครัว ถูกตอกย้ำด้วยภาวะเศรษฐกิจและสุขภาพของลูกที่ต้องการการดูแลพิเศษ

จากข้อมูลที่ได้รับ ผู้เสียชีวิตเคยพูดคุยกับเพื่อนบ้านว่าเธอรู้สึกหนักใจกับสถานการณ์ที่เผชิญ และแม้จะมีกำลังใจในการดูแลลูก แต่เธอเริ่มรู้สึกหมดหนทางที่จะจัดการกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา

- เส้นทางสู่ความสูญเสีย -

กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลจับภาพนาทีสุดท้ายของชีวิต น.ส.สายสุนีย์ ขณะเดินขึ้นบันไดหนีไฟจากชั้น 8 ไปยังชั้น 18 เพียงลำพัง หลังจากแจ้งพยาบาลว่าจะไปซื้อของให้ลูก จากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์เศร้าสลด โดยเธอตกลงมายังบริเวณระเบียงชั้น 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจได้เร่งเข้าตรวจสอบในทันที

การตรวจสอบเบื้องต้นระบุว่าไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงการกระทำผิดของผู้อื่น ขณะนี้ร่างของผู้เสียชีวิตถูกส่งไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตเพิ่มเติม

- ความเครียดหลังคลอด ปัญหาที่ต้องการการยอมรับ -

เหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือแม่ที่เพิ่งคลอด โดยเฉพาะในกรณีที่แม่ต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression) ซึ่งเป็นภาวะที่มักถูกมองข้ามในสังคมไทย

ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาชี้ว่า แม่ที่เพิ่งคลอดมีโอกาสประสบปัญหาด้านอารมณ์และจิตใจสูงขึ้น หากขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือสังคม การช่วยเหลือที่ไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่น่าเศร้าดังที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

- บทเรียนจากเหตุการณ์ สัญญาณเตือนถึงระบบที่ขาดการดูแล - 

โรงพยาบาลปทุมธานีได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และระบุว่าจะทบทวนมาตรการความปลอดภัยในโรงพยาบาลเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังมีการเรียกร้องจากผู้เชี่ยวชาญและประชาชนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการดูแลจิตใจแม่เลี้ยงเดี่ยว รวมถึงปรับปรุงระบบสนับสนุนในด้านเศรษฐกิจและจิตวิทยา

เหตุการณ์ครั้งนี้ทิ้งคำถามสำคัญไว้กับสังคมไทย เรามีการสนับสนุนที่เพียงพอสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัวที่เปราะบางหรือไม่? ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่เพียงเป็นการสูญเสียชีวิต แต่ยังเป็นการเตือนให้เราตระหนักถึงช่องโหว่ในระบบสวัสดิการที่อาจละเลยผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง

- ความสูญเสียเพื่อการเปลี่ยนแปลง - 

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ควรเป็นจุดเริ่มต้นในการทบทวนและปรับปรุงระบบช่วยเหลือในทุกระดับ ทั้งการดูแลแม่หลังคลอด การสนับสนุนแม่เลี้ยงเดี่ยว และการสร้างระบบสวัสดิการที่เข้มแข็งและครอบคลุมมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ความสูญเสียเช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต