จีนยังครองแชมป์ซื้อคอนโดฯ ไทย แต่ชลบุรีมาแรงแซงโค้ง! อสังหาฯ ไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไร?

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้กับชาวต่างชาติ ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยให้เห็นถึงการปรับตัวลดลงทั้งในแง่ของจำนวนหน่วยและมูลค่าการโอน พร้อมทั้งเปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในด้านพื้นที่ยอดนิยมและสัญชาติของผู้ซื้อ

การลดลงของตัวเลขโดยรวม

ตามรายงานของนายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ในไตรมาส 2/2567 การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 3,342 หน่วย ลดลง 6.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่ารวมอยู่ที่ 14,874 ล้านบาท ซึ่งลดลงถึง 17.7% นอกจากนี้ พื้นที่ของห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์รวม 152,219 ตารางเมตร ก็ลดลง 8.5% เช่นกัน

การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนในภาพรวมตลาด

สัดส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวมก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยในไตรมาส 2/2567 สัดส่วนจำนวนหน่วยลดลงเหลือ 11.8% จาก 13.6% ในไตรมาส 2/2566 ขณะที่สัดส่วนมูลค่าลดลงเหลือ 21.1% จาก 24.6% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ยอดนิยม

ที่น่าสนใจคือ จังหวัดชลบุรีได้ก้าวขึ้นมาเป็นพื้นที่อันดับ 1 ในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติ โดยมีสัดส่วนสูงถึง 38.4% แซงหน้ากรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ที่ 36.4% ทั้งสองจังหวัดนี้รวมกันมีสัดส่วนสูงถึง 74.8% ของจำนวนหน่วย และ 80.3% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระจุกตัวของความต้องการในสองพื้นที่นี้

สัญชาติของผู้ซื้อและพฤติกรรมการซื้อ

ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ชาวจีนยังคงเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลัก โดยมีสัดส่วน 39.5% ของจำนวนหน่วย และ 40.1% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ ตามมาด้วยชาวเมียนมาและรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อชาวอินเดียมีมูลค่าการโอนต่อหน่วยสูงที่สุดที่ 6 ล้านบาทต่อหน่วย และมีขนาดห้องเฉลี่ยใหญ่ที่สุดที่ 71.3 ตารางเมตร

แนวโน้มและการวิเคราะห์

การลดลงของตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งปีแรกของ 2567 อาจสะท้อนถึงการชะลอตัวของการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การที่ชลบุรีขึ้นมาเป็นพื้นที่อันดับหนึ่งแทนกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในความนิยมของตลาดต่างชาติ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก

แม้ว่าตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติจะลดลงในภาพรวม แต่การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการซื้อและพื้นที่ยอดนิยมแสดงให้เห็นถึงพลวัตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย การติดตามแนวโน้มเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการในการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป