TNN เปิดตำนาน "ภูพระบาท" มรดกโลก สะท้อนศรัทธาแห่ง "สีมา" ยุคทวารวดี

TNN

TNN Exclusive

เปิดตำนาน "ภูพระบาท" มรดกโลก สะท้อนศรัทธาแห่ง "สีมา" ยุคทวารวดี

เปิดตำนาน ภูพระบาท มรดกโลก สะท้อนศรัทธาแห่ง สีมา ยุคทวารวดี

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของไทย ที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และตำนานอันน่าค้นหา ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทวารวดี จนถึงปัจจุบัน



ภูพระบาท มรดกโลก: อัญมณีแห่งอุดรธานี


อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 46 ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 นับเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมลำดับที่ 5 ของประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 2 ของจังหวัดอุดรธานี สะท้อนถึงคุณค่าและความสำคัญของแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ในระดับสากล




วัฒนธรรมสีมา : รากเหง้าแห่งศรัทธาแห่งภูพระบาท


หนึ่งในคุณค่าโดดเด่นของภูพระบาทคือการเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 12-16) วัฒนธรรมสีมาเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในการใช้หลักหิน (หรือที่เรียกว่าใบเสมา) ปักเพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ใบเสมาหินจำนวนมากที่พบในพื้นที่ภูพระบาทแสดงถึงวิวัฒนาการของรูปแบบและศิลปกรรมที่หลากหลาย สะท้อนถึงความเชื่อและพิธีกรรมในการกำหนดพื้นที่อุโบสถที่มีใบเสมาล้อมรอบ ซึ่งยังคงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน




ภาพเขียนสีและเพิงหิน : เรื่องเล่าจากอดีตของภูพระบาท


ภูพระบาทยังมีความสำคัญในฐานะแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ ภาพเขียนสีอายุกว่า 3,000 ปีที่พบตามเพิงหินต่างๆ เป็นหลักฐานสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิต ความเชื่อ และพิธีกรรมของผู้คนในอดีต การศึกษาภาพเขียนเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในภูมิภาคนี้ได้ดียิ่งขึ้น


เปิดตำนาน ภูพระบาท มรดกโลก สะท้อนศรัทธาแห่ง สีมา ยุคทวารวดี


ตำนานรักนางอุษาและท้าวบารส : ความโรแมนติกที่ภูพระบาท


ตำนานความรักระหว่างนางอุษาและท้าวบารสเป็นเรื่องเล่าที่ผูกพันกับภูมิประเทศอันงดงามของภูพระบาทมาอย่างยาวนาน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ "หอนางอุสา" โขดหินธรรมชาติรูปทรงคล้ายดอกเห็ดหรือหอคอยขนาดเล็ก ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนลานหินกว้างภายในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตำนานเล่าว่า นางอุษาธิดากษัตริย์แห่งเมืองภูพระบาทถูกกักขังอยู่ในหอนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้พบรักกับชายใด แต่ด้วยพลังแห่งความรัก ท้าวบารสเจ้าชายจากเมืองไกลได้เสี่ยงภัยเดินทางมาพบนางและทั้งสองได้ลักลอบพบกัน ณ หอนางอุสาแห่งนี้ ความงดงามของภูมิทัศน์ธรรมชาติ ประกอบกับรูปทรงแปลกตาของโขดหินต่างๆ ในบริเวณภูพระบาท ได้กลายเป็นฉากหลังอันวิจิตรของเรื่องราวความรักอันเป็นอมตะนี้


ตำนานความรักของนางอุษาและท้าวบารสไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเล่าที่สร้างสีสันให้กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภูพระบาท แต่ยังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ระบำนาฏดุริยะแห่งภูพระบาท" ซึ่งเป็นการแสดงที่ผสมผสานศิลปะการฟ้อนรำแบบไทยเข้ากับดนตรีและการเล่าเรื่องที่อิงจากตำนานความรักนี้ การแสดงดังกล่าวไม่เพียงสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม แต่ยังเป็นวิธีการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของภูพระบาทผ่านศิลปะการแสดงอีกด้วย 


นอกจากนี้ ตำนานดังกล่าวยังได้รับการถ่ายทอดผ่านงานวรรณกรรม จิตรกรรม และสื่อสมัยใหม่อื่นๆ ซึ่งช่วยให้เรื่องราวของภูพระบาทและความสำคัญทางวัฒนธรรมของพื้นที่นี้แพร่หลายสู่สาธารณชนในวงกว้าง ส่งผลให้เกิดความสนใจและความตระหนักในคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งนี้มากยิ่งขึ้น



ภูพระบาท: เส้นทางสู่การเป็นมรดกโลก


เส้นทางสู่การเป็นมรดกโลกของอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นกระบวนการที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความท้าทาย เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2547 เมื่อประเทศไทยเสนอชื่อภูพระบาทเข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ขององค์การยูเนสโก อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกนี้ การดำเนินการประสบอุปสรรคและถูกถอนรายชื่อออกไป เนื่องจากข้อมูลและหลักฐานทางวิชาการยังไม่เพียงพอที่จะแสดงถึงคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของแหล่งมรดก


ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 ได้มีการริเริ่มกระบวนการเสนอชื่อภูพระบาทอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้านมากขึ้น มีการศึกษาวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โบราณคดี และคุณค่าทางวัฒนธรรมของพื้นที่ รวมถึงการจัดทำแผนการจัดการพื้นที่อย่างยั่งยืน การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ และชุมชนท้องถิ่น โดยมีกรมศิลปากรเป็นแกนนำสำคัญ ผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องและการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ทำให้ในที่สุดภูพระบาทได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย


เปิดตำนาน ภูพระบาท มรดกโลก สะท้อนศรัทธาแห่ง สีมา ยุคทวารวดี


การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ภูพระบาท : เยี่ยมชมอย่างยั่งยืน


การเป็นมรดกโลกเปิดโอกาสให้ภูพระบาทพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว และการจัดกิจกรรมที่ไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งโบราณคดีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง






เปิดตำนาน ภูพระบาท มรดกโลก สะท้อนศรัทธาแห่ง สีมา ยุคทวารวดี


ภูพระบาท: แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต


ภูพระบาท ไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับทุกเพศทุกวัย การจัดกิจกรรมการศึกษาและโครงการที่ส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติของภูพระบาท จะช่วยปลูกฝังความรักและหวงแหนในมรดกทางวัฒนธรรมให้กับคนรุ่นใหม่


การขึ้นทะเบียนภูพระบาทเป็นมรดกโลกไม่เพียงสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย แต่ยังเป็นโอกาสและความท้าทายในการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งโบราณคดีอันทรงคุณค่านี้ให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยและมนุษยชาติสืบไป



ภาพ :  อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท / เอกสารกรมศิลปากร 


ข่าวแนะนำ