รู้จัก "Rain Bomb" สึนามิจากฟ้า ภัยคุกคามใหม่ในยุคโลกร้อน
Rain Bomb หรือ ระเบิดฝน คืออะไร? ทำไมถึงเป็นภัยคุกคามใหม่ในยุคโลกร้อน? เรียนรู้สาเหตุ ผลกระทบ และวิธีรับมือกับปรากฏการณ์ฝนตกหนักรุนแรงที่คาดการณ์ได้ยากนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น
ในยุคที่ภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏการณ์ "Rain Bomb" หรือ "ระเบิดฝน" กำลังกลายเป็นภัยคุกคามใหม่ที่น่ากังวล แม้จะยังไม่ใช่ศัพท์ทางวิชาการ แต่ผลกระทบของมันต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนกำลังปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้
ความหมายของ "Rain Bomb"
"Rain Bomb" หมายถึง ฝนตกหนักในปริมาณมหาศาลในช่วงเวลาอันสั้น จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เปรียบเสมือนฟ้ารั่ว แม้จะยังไม่มีข้อสรุปทางวิชาการว่านี่คือปรากฏการณ์ "ระเบิดฝน" อย่างแท้จริง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีให้เห็นอยู่ทั่วไป เช่น น้ำท่วมภูเก็ต ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น
สาเหตุของ "Rain Bomb"
สาเหตุหลักของ "Rain Bomb" เกิดจากภาวะโลกร้อน ทำให้มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำระเหยมากขึ้น และอากาศร้อนขึ้น เมฆจึงมีความชื้นสูงมาก และพร้อมที่จะปล่อยน้ำลงมาในปริมาณมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น "Rain Bomb" มักแฝงมากับพายุฝนฟ้าคะนอง และจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นในอนาคต
ผลกระทบจาก "Rain Bomb"
ผลกระทบของ "Rain Bomb" ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ที่มันเกิดขึ้น หากเกิดบนภูเขาหรือในป่า อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและโคลนถล่ม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรอย่างหนัก เช่นเหตุการณ์ที่ลิเบีย ส่วนในเขตเมืองหรือพื้นที่ราบลุ่มนั้น น้ำจะเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแอ่งน้ำ รวมถึงทำให้รถติดอยู่บนถนนจนเกิดความเสียหาย
ความยากในการคาดการณ์ "Rain Bomb"
การคาดการณ์การเกิด "Rain Bomb" ล่วงหน้านั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเป็นการพยากรณ์ในวงกว้างและขาดความแม่นยำในเชิงรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่สามารถเตรียมตัวรับมือได้ทัน เช่น การเคลื่อนย้ายรถไปจอดในที่สูง หรือการป้องกันน้ำเข้าบ้าน เป็นต้น
การเตรียมพร้อมรับมือ "Rain Bomb"
เนื่องจากการคาดการณ์การเกิด "Rain Bomb" นั้นเป็นไปได้ยาก จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องเตรียมพร้อมรับมือด้วยตัวเอง การเรียนรู้และศึกษาสภาพแวดล้อมรอบบ้าน เส้นทางน้ำหลาก พื้นที่ลุ่ม และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ผศ.ดร.ธรณ์ยังแนะนำให้เลิกคิดแบบเดิมๆ ที่หวังพึ่งการเยียวยาชดใช้จากรัฐ เพราะเมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เราอาจไม่ได้รับการชดเชยมากอย่างที่หวัง
สภาพอากาศสุดขั้วอย่าง "Rain Bomb" ได้กลายเป็นความเสี่ยงอันดับหนึ่งของโลกในทศวรรษหน้า ตามที่ World Economic Forum ได้ระบุไว้ การเตรียมพร้อมรับมือจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราทุกคนต้องตระหนักและลงมือทำ ผศ.ดร.ธรณ์เองก็ได้แบ่งปันตัวอย่างการเตรียมตัวจากบ้านของเขา ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนกับระบบระบายน้ำ การจัดหากระสอบทราย การเตรียมอุปกรณ์อุดกั้นน้ำ การเตรียมคัตเอาท์ไฟ และการจอดรถในที่สูง เหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างที่ดีในการรับมือกับภัยคุกคามจาก "Rain Bomb" ในยุคของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนี้
ข้อมูล ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ข่าวแนะนำ