วิกฤตแรงงาน ‘ร้อน’ โจทย์ใหญ่ ที่ต้องได้รับการ ‘แก้’
ท่ามกลางแดดแผดเผา แรงงานไทยนับแสนชีวิตต้องดิ้นรนทำงานหนักกลางอากาศร้อนระอุ เสี่ยงสุขภาพย่ำแย่ รายได้หดหาย ชีวิตยากลำบากหนักกว่าเดิม หลายภาคส่วนจึงต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือ คุ้มครองผู้ใช้แรงงานอย่างเร่งด่วน
ผลกระทบจากสภาวะอากาศร้อนจัดต่อแรงงานไทย
---------------------------------------
ในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสภาวะอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างหนัก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานไทยที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรือในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง จำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพ ประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง รวมถึงอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุขณะทำงานอีกด้วย
ผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากอากาศร้อนจัดส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำ เกลือแร่ และความร้อนอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ซึ่งมีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หมดสติ หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากภาวะฮีทสโตรกได้ โดยอัตราเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้นหากแรงงานที่มีโรคประจำตัว
นอกจากนี้ การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ร้อนอบอ้าว ร่างกายรู้สึกอึดอัด เหนื่อยล้า ทำงานหนักได้น้อยลง ย่อมส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกัน ความเครียดจากความร้อน ความอ่อนล้าที่สะสม และสมาธิในการทำงานที่ลดลง ยังนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีกด้วย
ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ควรต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ภาครัฐควรออกกฎหมายและข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงานภายใต้สภาพอากาศร้อนจัด กำหนดช่วงเวลาทำงานที่เหมาะสม จัดสถานที่ทำงานที่มีการระบายอากาศดี รวมถึงให้ความรู้แก่แรงงานเกี่ยวกับอันตรายและวิธีป้องกัน
เมื่อแดดร้อนกลายเป็นภัยคุกคามชีวิตแรงงาน
ภายใต้สภาพอากาศร้อนระอุ พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย วินมอเตอร์ไซค์ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต่างต้องเผชิญความยากลำบากในการทำงานกลางแจ้งวันละกว่า 10 ชั่วโมง แม่ค้าขายหมูทอดรายหนึ่งเล่าว่า "แดดแรงแบบนี้ทำให้ขายของได้น้อยลงมาก คนไม่ค่อยอยากออกจากบ้าน เราเองก็ลำบาก ต้องตากทั้งแดด ทั้งความร้อนจากเตา บางวันแทบจะเป็นลมแต่ก็ต้องอดทน เพราะถ้าหยุดงาน ครอบครัวจะยิ่งลำบากกว่านี้"
ขณะที่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ต้องเผชิญสภาพการทำงานไม่ต่างจากอยู่กลางเตาอบ ทั้งร้อนและเหนื่อย หลายคนระบุว่ารายได้ลดลงเพราะผู้โดยสารมักเลือกใช้บริการรถแท็กซี่แทน เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าห้างฯ ต้องยืนเฝ้าการณ์กลางแดดนานหลายชั่วโมง บางรายถึงขั้นเป็นลมหมดสติ เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่จำนวนมาก กระทรวงแรงงานจึงออกมากำชับให้ผู้ใช้แรงงานกลางแจ้งดูแลสุขภาพ ด้วยการดื่มน้ำบ่อยๆ สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และหมั่นสังเกตอาการป่วยของตัวเอง หากมีอาการผิดปกติต้องรีบเข้ารับการรักษาทันที
ขณะที่ภาคเอกชนหรือนายจ้าง ควรตระหนักถึงความปลอดภัยของแรงงาน ด้วยการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันความร้อน ทั้งหมวก เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ครีมกันแดด ตลอดจนจัดศูนย์พักพิงและน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอ ส่วนแรงงานเองก็ควรใส่ใจในการดูแลสุขภาพของตนเอง ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนให้เหมาะสม และสังเกตอาการป่วยของตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการทำงานท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด
สุดท้ายนี้ ผลกระทบจากสภาวะอากาศร้อนจัดต่อแรงงานไทย ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้แรงงานซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ได้มีสุขภาพที่แข็งแรง คุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนพื้นฐานของความปลอดภัย นับเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรตระหนักและร่วมกันหาทางออกที่เหมาะสมต่อไป
ภาพ TNN
ข่าวแนะนำ