เหยียดนมโรงเรียน ทำไม? พฤติกรรม ที่ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม
เหยียดนมโรงเรียน ทำไม? พฤติกรรมที่ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม นมโรงเรียน คือ สะพานโภชนา แก้ปัญหาเด็กอ้วน
เหยียดนมโรงเรียน ทำไม? พฤติกรรมที่ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม
เรื่องราวของคุณแม่ที่ถูกทักแชทด่าเหยียดหยามเรื่องการให้ลูกกินนมโรงเรียน สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการดูแคลนและดูถูกคนยากจนและด้อยโอกาสในสังคมไทย แม้ นมโรงเรียน จะเป็นโครงการของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่กลับถูกมองว่าเป็น "นมเกรดต่ำ" ที่ไม่ควรให้ลูกของตนกิน สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมและฐานะทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ในประเทศไทย
โครงการนมโรงเรียน: การดูแลสุขภาพและโภชนาการของนักเรียนอย่างยั่งยืน
โครงการนมโรงเรียน เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทยที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงและยกระดับสุขภาพและโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างภาวะโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญาของเด็กและเยาวชน
ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ผู้จัดการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพและประโยชน์ของนมโรงเรียนในปัจจุบันว่า นมที่ใช้ในโครงการเป็นนมสดแท้ 100% ไม่มีการปรุงแต่งกลิ่นหรือรสชาติ และไม่มีการเติมน้ำตาล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการส่งเสริมสุขภาพและการเจริญเติบโตของเด็กนักเรียน
นมโรงเรียนมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนี้
- โปรตีน ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการเจริญเติบโต
- แคลเซียม สำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- วิตามิน เช่น วิตามิน A, B2, B12 และ D ช่วยในการมองเห็น การทำงานของระบบประสาท และการดูดซึมแคลเซียม
- ฟอสฟอรัส ช่วยในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
นอกจากคุณประโยชน์ด้านสารอาหารแล้ว ทพญ.จันทนา ยังกล่าวว่านมโรงเรียนยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทยอีกด้วย เพราะนมดิบที่ใช้ผลิตเป็นนมโรงเรียนมาจากฟาร์มโคนมของเกษตรกรไทย ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน จึงเป็นการช่วยสร้างรายได้และความมั่นคงให้กับอาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศ
แม้นมโรงเรียนอาจไม่ได้มีรสชาติหวานมันเหมือนนมพรีเมียมยี่ห้อดังๆ แต่ก็ถูกออกแบบส่วนผสมมาให้มีรสชาติที่เหมาะสมสำหรับเด็ก มีความสมดุลของสารอาหาร และไม่หวานจัดจนเกินไป ซึ่งจะช่วยปลูกฝังพฤติกรรมการบริโภคที่ดีให้กับเด็กไทยในระยะยาว
เด็กไทยอ้วนติดอันดับ 3 ของอาเซียน : สัญญาณเตือนภัยสุขภาพ
ข้อมูลน่าตกใจจากกรมอนามัย เผยเด็กไทยมีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ติด 1 ใน 3 ของอาเซียน เป็นสัญญาณเตือนภัยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม สถิติระบุว่า
- เด็กไทยอายุ 0-5 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 9.13
- เด็กวัยเรียน 6-14 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.4
- เด็กวัยรุ่น 15-18 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.2
สาเหตุหลักของปัญหาเด็กไทยอ้วน ได้แก่ พฤติกรรมการกินอาหารที่มีไขมัน น้ำตาล และโซเดียมสูง การไม่ออกกำลังกาย การใช้เวลากับหน้าจอนาน รวมถึงการขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องโภชนาการ
ในแง่นี้ โครงการนมโรงเรียนถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเด็กอ้วนในประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน เพราะการได้ดื่มนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่หวานจัด และไม่มีการปรุงแต่งเป็นประจำทุกวัน จะช่วยปลูกฝังพฤติกรรมการบริโภคที่ดี ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2580 อัตราเด็กไทยอายุ 0-5 ปีที่มีภาวะอ้วนจะต้องไม่เกินร้อยละ 8 ส่วนเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นอายุ 6-18 ปีที่มีภาวะอ้วนจะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ซึ่งนมโรงเรียนจะเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมปัญหาเด็กอ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กยากจนและด้อยโอกาสที่มักเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพยาก
นอกจากนี้ ยังจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องโภชนาการและการบริโภคที่ถูกต้องให้แก่ผู้ปกครองไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างบ้านและโรงเรียนในการแก้ปัญหาเด็กอ้วนได้อย่างเป็นรูปธรรม
นมโรงเรียน: สัญลักษณ์ของโอกาสและความเท่าเทียม
นมโรงเรียนไม่เพียงแต่เป็นมาตรการในการดูแลสุขภาพและโภชนาการของนักเรียน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการให้โอกาสและการสร้างความเท่าเทียมทางสังคม โครงการนี้จัดหานมคุณภาพดีให้กับนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ มีการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ถือเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ โครงการนมโรงเรียนยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กอ้วนในประเทศไทย เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณภาพและคุณประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ซึ่งจะส่งผลให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรง ในขณะเดียวกัน การได้รับนมโรงเรียนฟรีก็สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่ฐานะยากจนได้
อย่างไรก็ตาม ความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ยังคงมีอยู่ ทำให้บางครอบครัวอาจรู้สึกแย่ที่ไม่สามารถจัดหานมคุณภาพดีๆ ให้ลูกได้ เป็นความรู้สึกที่น่าเศร้าและน่าเห็นใจอย่างยิ่ง การเหยียดหยามและดูถูกคนยากจนในลักษณะนี้ จึงเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมที่ยังคงมีอยู่ในสังคมไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรได้รับการแก้ไขและปรับปรุงอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคมให้ดียิ่งขึ้น
ภาพ : TNN
เรียบเรียง : ยศไกร รัตนบรรเทิง
ข่าวแนะนำ