เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการพูดถึงแนวคิดไปยังบรรดาธนาคารในบ้านเรา เพื่อเสนอแนวทางการจัดตั้ง "Bad Bank" สําหรับให้ธนาคารโอนหนี้เสียมา และกลับไปเดินหน้าปล่อยสินเชื่อใหม่ ซึ่งภายใต้แนวคิดนี้ แน่นอนว่ากลุ่ม Bank จะมีผลกระทบโดยตรง ส่วนจะเป็นบวกหรือเป็นลบมากกว่า มาฟังมุมมองจากนักวิเคราะห์กัน
ฝ่ายวิจัยฯ ของบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่าการตั้ง "Bad Bank" จะส่งผลดีกับทุกธนาคาร เพราะจะเป็นการเปิดช่องทางใหม่ในการระบายหนี้เสียออกจากธนาคาร จากในปัจจุบัน ที่ธนาคารส่วนใหญ่ ลดหนี้ NPL ได้ด้วยแนวทางหลายแนวทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการ write-off หนี้เสีย // การขายหนี้เสียออกไปให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) และล่าสุด ยังมีนโยบายสนับสนุนการตั้ง JV หรือบริษัทร่วมทุนในธุรกิจ AMC เฉพาะทางด้วย
และจากแนวทางข้างต้น "เคจีไอฯ" ให้ข้อมูลว่าในช่วง 2 ปีหรือระหว่างงปี 2566-2567 "KBANK" เป็นธนาคารที่มีการจัดการระบายหนี้เสียออกไปมากสุด ที่ประมาณ 150,000 ล้านบาทหรือประมาณร้อยละ 6 ของสินเชื่อรวม รองลงมาคือ SCB ที่ประมาณ 100,000 ล้านบาทหรือประมาณร้อยละ 4 ของสินเชื่อรวม
สรุปข่าว
ฝ่ายวิจัยฯ ของเคจีไอฯ อธิบายต่อว่า แนวคิดเรื่อง "Bad Bank" นั้น จะมุ่งแก้หนี้เสียในกลุ่มสินเชื่อผู้บริโภคเป็นหลัก ดังนั้น จึงเชื่อว่าสินเชื่อผู้บริโภคที่ปลอดหลักประกัน // สินเชื่อเช่าซื้อ (H/P) และสินเชื่อบ้าน น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายอันดับแรก ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวคิดของ "Bad Bank" ยังไม่ชัดเจน ฝ่ายวิจัยฯ จึงคาดเดาเบื้องต้น ว่าน่าจะจัดตั้งโดยให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) มาใช้ในการซื้อหนี้
นอกจากนี้ ยังคาดว่าหนี้เสียของธนาคาร น่าจะโอนไปที่ "Bad Bank" ในราคาที่กําหนดแน่นอน โดยราคา settlement น่าจะเป็นหักจากค่าธรรมเนียม FIDF ซึ่ง ณ ระดับนี้ น่าจะทำธนาคารขนาดเล็ก จะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะมีสัดส่วนสินเชื่อผู้บริโภค และ SME รวมกันอยู่ที่ร้อยละ 78
โดยหากพิจารณาเป็นรายธนาคาร ก็พบว่าสัดส่วนสินเชื่อผู้บริโภค และ SME ของ TTB อยู่ในระดับสูงที่สุดที่ร้อยละ 70 // ส่วนของ KTB และ SCB อยู่ที่ร้อยละ 58 // ด้าน KBANK อยู่ที่ร้อยละ 56 ขณะที่ BBLจะได้ประโยชน์น้อยที่สุด เพราะสินเชื่อส่วนใหญ่ปล่อยให้ธุรกิจขนาดใหญ่
ฝ่ายวิจัยฯ ของเคจีไอฯ ยังระบุอีกว่า การที่ธนาคารทุกแห่งมีส่วนรองรับหนี้เสียอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้น การขาย NPL จึงไม่น่าจะทําให้เกิดผลขาดทุนกับธนาคารด้วย แต่อย่างไรก็ดี แนวคิดเรื่อง "Bad Bank" นั้นถือเป็นแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น และยังไม่ได้เป็นรูปธรรมมากนัก ซึ่งต้องติดตามความคืบหน้าและแนวทางต่อไป