
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยอมปรับถ้อยคำในญัตติจากนายทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลในครอบครัวว่า ได้หมด เพราะเป็นไปตามกระบวนการ ตามเอกสารอยู่แล้ว ถ้าทำขั้นถูกก็โอเคแล้ว ส่วนกรณีที่ตนเองเคยระบุว่ารับได้กับการใช้เวลาอภิปราย 30 ชั่วโมงนั้น หมายถึง 30 ชั่วโมงที่ต้องแบ่งกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล แต่หากฝ่ายค้านจะใช้เวลาถึง 30 ชั่วโมง เพื่ออภิปรายฯ นายกรัฐมนตรีคนเดียว ก็อาจจะไม่สมเหตุผลเท่าไหร่ ทั้งนี้ ก็เป็นเรื่องที่วิป 3 ฝ่ายจะไปพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.) กระบวนการทางสภาฯ ก็เป็นหน้าที่ของวิปฯ ตนเองไม่ได้มีหน้าที่ไปตกลงด้วย
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าในวงรับประทานอาหารค่ำร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 21 มี.ค.นี้จะมีการหารือกันถึงการรับมือฝ่ายค้านในเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ซึ่งจะคุยกันว่าแต่ละพรรคจะช่วยเหลือกันอย่างไร จะแบ่งเบากันได้อย่างไรบ้าง แม้จะเป็นการอภิปรายฯ นายกรัฐมนตรีคนเดียว แต่ก็จะเกี่ยวข้องกับกระทรวงอื่นๆ อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาโหมโรง “ดีลแลกประเทศ” ถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติที่จะทำให้ได้รับความสนใจ ซึ่งรัฐบาลก็มีเช่นกัน โดยได้มีการเตรียมข้อมูลและทำการบ้านเกี่ยวกับนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการว่ามีคำถามอะไรที่ฝ่ายค้านสนใจ เพื่อเตรียมข้อมูลคำตอบ

สรุปข่าว
น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณออกมาเสนอแนวคิดซื้อหนี้ประชาชนด้วยว่า เรื่องหนี้เป็นเรื่องที่นายทักษิณให้ความสนใจมาโดยตลอด เพราะเป็นนักธุรกิจมาก่อน และเป็นนายกฯ มา 6 ปี ซึ่งก็มองเห็นปัญหาว่าเรื่องหนี้สินเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ จึงหาทางช่วยเหลือ ซึ่งเป็นความคิดของคนที่หวังดีกับประเทศ อย่าเพิ่งเล่นประเด็นการเมือง เพราะยังต้องผ่านกระบวนการต่างๆ อีกหลายขั้นตอน จึงไม่ใช่การครอบงำอะไร เมื่อถามว่า เรื่องนี้สามารถทำได้จริงหรือไม่ เพราะตอนนี้รัฐบาลกำลังแบกรับภาระมากมาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้ประชาชนฟังให้เป็นความหวัง ส่วนการดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องไปหารือกัน ส่วนเอกชนจะเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่นั้น ต้องไปพิจารณาก่อน ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลก็อยากให้เกิดขึ้นได้จริง
น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสที่นายทักษิณออกมาเปิดไฮไลท์นโยบายต่างๆ ทั้งที่ควรจะออกมาจากรัฐบาล เพราะเราก็มีตัวตนของเรา แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ เราคงไม่เอาตัวตนเราไปขวาง
ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ฉันไม่ได้หน้า ฉันไม่ทำ มันก็ไม่ใช่ ถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์กับประชาชนจริง เราก็ไม่ขวาง เพราะถ้าคิดว่า ทำแล้วไม่ได้หน้า ไม่ทำ ถ้าอย่างนั้นมันไม่มีอะไรทำกันแล้ว อย่างนี้มันก็จะแย่ อะไรที่เป็นความคิดที่ดีก็ต้องทำ” นายกรัฐมนตรี กล่าวและยืนยันว่า การที่นายทักษิณออกมาเปิดประเด็นเรื่องนี้ไม่ใช่ต้องการกลบกระแสการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน