สรุปข่าว
นางกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ กรรมการรองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวในการร่วมแถลงข่าวว่า บาทแข็งค่าเร็ว และรุนแรง ไม่รู้ทิศทางว่าจะแข็งกว่าอีกแค่ไหน หรือผันผวนเร็วอีกนานไหม ทำให้ผู้ส่งออกปรับตัวได้ยาก โดยเฉพาะสินค้าข้าว
ทั้งนี้ร้อยละ 90 เป็นต้นทุนในประเทศ เมื่อการแข่งขันส่งออกสูง ทั้งจากเงินบาทแข็งกว่าประเทศคู่แข่ง อย่างประเทศเวียดนามที่ค่าเงินแข็งขึ้นร้อยละ 3.7 ขณะที่ไทยแข็งค่าเกินร้อยละ 10 ซึ่งห่างกันกว่าร้อยละ 5 หรือเงินปากีสถานแข็งค่าร้อยละ 1
ขณะที่เงินอินเดียอ่อนค่าร้อยละ 0.6 เท่ากับเงินไทยแข็งที่สุด เพราะทุก 1 บาทเงินบาทที่แข็งค่าหรืออ่อนตัว จะมีผลต่อราคาส่งออกข้าว(FOB) เปลี่ยนไป 15 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ปัจจุบันภาวะบาทแข็งทำให้แข่งขันเหนื่อยมาก เพราะราคาส่งออกแข่งได้ยากขึ้น ปีนี้เป้าส่งออกข้าว 8.5 ล้านตันไม่น่าจะมีปัญหา เพราะภัยแล้งสร้างความเสียหาย ทำให้หลายประเทศเพิ่มนำเข้า และต้นปีบาทอยู่ที่ 36 - 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น อัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้แตกต่างกันในทุกประเทศ
ในปี 2568 หากบาทแข็ง ประเทศอินเดียเริ่มส่งออกอีกครั้ง ประเทศต่าง ๆ เพิ่มส่งออกหลังแล้วคลี่คลาย ก็คาดว่าจะมีข้าวสารเพิ่มในตลาดโลก 10 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแข่งตัดราคาอีกครั้ง ไทยก็ต้องแข่งราคากับเขาด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อราคารับซื้อข้าวในประเทศลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วรัฐบาลจะต้องมาดูแลราคาข้าวในประเทศกันอีกครั้ง
ภาพจาก: AFP
ที่มาข้อมูล : -