
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.73 บาท/ดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.85 บาท/ดอลลาร์
นับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 33.69-33.83 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หนุนโดยการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินฝั่งยุโรป อย่างเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.50% ตามคาด ทว่า BOE ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง จากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนบ้าง จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ที่ระดับ 2.23 แสนราย และดัชนีภาคการผลิตโดย เฟด สาขา Philadelphia ที่สูงขึ้นแตะระดับ 12.5 จุด นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของราคาทองคำ (XAUUSD) ก่อนที่เงินบาทจะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงรอทยอยขายเงินดอลลาร์
อีกทั้ง รายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (Leading Indicator) โดย Conference Board ก็ปรับตัวลดลง -0.3% แย่กว่าที่ตลาดคาด และทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ กดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง ขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็สามารถรีบาวด์กลับมาแกว่งตัวแถวโซน 3,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กลับมาร้อนแรงขึ้น

สรุปข่าว
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ในฝั่งไทย เรามองว่า ควรติดตามรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports and Imports) ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้แถลงข่าว ทำให้น่าติดตามว่า อาจมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศและแนวโน้มในอนาคตในการแถลงข่าวครั้งนี้ได้
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาท (USDTHB) อาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปก่อน เพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งในช่วงระหว่างวัน เรามองว่า ควรจับตา การแถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ในช่วง 10.00 น. ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้แถลงข่าว ทำให้เรามองว่า การแถลงข่าวดังกล่าวอาจมีประเด็นที่น่าสนใจ เช่น รายงานยอดการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง หรือดุลการค้าที่เกินดุลกว่าคาดได้ ซึ่งหากคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง ก็อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้บ้าง แต่เรามองว่า การแข็งค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด
เนื่องจากราคาทองคำยังมีทิศทางที่ไม่แน่นอน และเริ่มเสี่ยงเผชิญแรงขายเพิ่มเติมจากบรรดาผู้เล่นในตลาด ซึ่งหากราคาทองคำย่อตัวลงบ้าง หรืออยู่ในช่วงการพักฐาน ก็อาจกดดันให้เงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ดังที่ได้เห็นในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเราประเมินว่า เงินบาทยังพอมีโซนแนวรับแถว 33.60-33.70 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวต้านก็อาจติดอยู่ในช่วง 33.80-33.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเราเห็นความต้องการทยอยขายเงินดอลลาร์จากบรรดาผู้เล่นในตลาดอยู่บ้างในช่วงนี้
ที่มาข้อมูล : IQ
ที่มารูปภาพ : Getty Images