เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ  33.57 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย เปิดเช้านี้ที่ 33.57 บาท/ดอลลาร์ รอลุ้นผลประชุม BOE และ CPI ญี่ปุ่น

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.57 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดของวันก่อนที่ 33.64 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้าจะอยู่ที่ระดับ 33.50 - 33.70 บาท/ดอลลาร์ นักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของญี่ปุ่น

ปัจจัยหนุนการแข็งค่าของเงินบาท

ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นในลักษณะ Sideways Down ตามการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณอาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

นอกจากนี้ การที่เฟดปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้ลงเหลือ 1.7% จากเดิม 2.1% พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเป็น 2.8% จาก 2.5% ทำให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อยังคงสูง (Stagflation) ซึ่งส่งผลให้โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 64%

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ  33.57  บาท/ดอลลาร์

สรุปข่าว

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ  33.57 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.50 - 33.70 บาท/ดอลลาร์

ภาพรวมตลาดการเงิน
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี เช่น Tesla (+4.7%) และ Alphabet (+2.0%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.41% และ S&P500 เพิ่มขึ้น 1.08%
• ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.19% จากความหวังว่า ECB จะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ แต่ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทหาร
• ตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ย่อตัวลงอยู่ที่ระดับ 4.23%
• ตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ลดลงสู่ระดับ 103.3 จุด
• ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงหนุนของการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
• ผลประชุม BOE คาดว่า BOE จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.50% แต่มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้
• ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดสาขา Philadelphia
• ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

แนวโน้มค่าเงินบาท

เงินบาทอาจยังคงแข็งค่าอยู่ในกรอบ 33.50-33.60 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันจากการขายทำกำไรพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติ และภาวะความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนน่าจะพิจารณาใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง เช่น Options หรือการใช้สกุลเงินท้องถิ่น เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มาข้อมูล : Krungthai GLOBAL MARKETS

ที่มารูปภาพ : Getty Images