เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.77 บาท/ดอลลาร์ "แข็งค่าขึ้น" จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  33.87 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.70-33.90 บาท/ดอลลาร์

นับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 33.74-33.89 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) กลับสู่โซน 2,930-2,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามจังหวะการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์ หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯ ชะลอลงสู่ระดับ 2.8% 

ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ก็ชะลอลงสู่ระดับ 3.1% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการเกิดภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจชะลอ แต่อัตราเงินเฟ้อสูง) ลงบ้าง นอกจากนี้ ราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากความต้องการถือครองทองคำ ท่ามกลาง ความกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ 

อย่างไรก็ดี บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ได้จำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ขณะเดียวกัน การรีบาวด์ขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ ก็มีส่วนช่วยจำกัดการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์

สรุปข่าว

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.70-33.90 บาท/ดอลลาร์

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในช่วงปลายเดือน หลังล่าสุด อัตราเงินเฟ้อ CPI ได้ชะลอลง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย 

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบจากการดำเนินนโยบายลดการจ้างงานโดย DOGE ซึ่งอาจกระทบต่อภาพรวมตลาดแรงงานสหรัฐฯ และทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางนโยบายการเงินของเฟดได้

แนวโน้มของค่าเงินบาท ประเมินว่า เงินบาท (USDTHB) จะยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways ในช่วงที่ผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้ง ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะทยอยรับรู้ในช่วงราว 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

ทั้งนี้ มองว่า เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง หลังบรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ตลาดการเงินฝั่งเอเชียอาจได้รับอานิสงส์บ้าง และมีโอกาสเห็นแรงซื้อสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทย จากบรรดานักลงทุนต่างชาติได้ นอกจากนี้ เรายังคงเห็นแรงขายเงินดอลลาร์จากบรรดาผู้เล่นในตลาดอยู่บ้าง ในช่วงที่เงินบาททยอยอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน ทำให้ เงินบาทก็อาจยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 33.90-34.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนักในช่วงนี้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN