
“มาดามแป้ง” กับปัญหาสมาคมฟุตบอลไทย: เรื่องราวทั้งหมดที่คุณต้องรู้
จุดเริ่มต้นของดราม่า
เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ศาลฎีกาตัดสินให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยแพ้คดีลิขสิทธิ์กับ "สยามสปอร์ต" ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกไทยในอดีต คำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้สมาคมฯ ต้องจ่ายค่าเสียหาย 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ส่งผลให้สมาคมฯ เผชิญกับวิกฤติทางการเงินอย่างหนัก นี่เป็นปัญหาทางการบริหารที่สะสมมาเป็นเวลานาน และส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดำเนินกิจกรรมของสมาคมฯ อย่างมาก

สรุปข่าว
มาดามแป้ง กับแผนรับมือ
วันที่ 11 มีนาคม 2568 มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาแถลงข่าวต่อสาธารณชน โดยเธอแสดงความ เคารพคำตัดสินของศาล แต่ยืนยันว่าเธอจะพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องวงการฟุตบอลไทย
- เจรจากับสยามสปอร์ต มาดามแป้งมีแผนจะเข้าไปพูดคุยกับบริษัท สยามสปอร์ต เพื่อหาแนวทางลดภาระหนี้สินที่ต้องจ่าย และอาจมีการเจรจาผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระเงิน
- เรียกประชุมสภากรรมการสมาคมฯ ด่วน เพื่อขอความเห็นจากที่ประชุมเกี่ยวกับการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้บริหารชุดเก่า ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้สมาคมฯ ตกอยู่ในสถานการณ์ทางการเงินที่ย่ำแย่
- ย้ำเจตนารมณ์เพื่อวงการฟุตบอล มาดามแป้งเน้นย้ำว่า การดำเนินงานทั้งหมดของเธอ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของวงการฟุตบอลไทยโดยรวม
ปัญหาหนี้สินสะสมจากอดีต
อีกหนึ่งปัญาหนักของสมาคมฯ คือ หนี้สินจากการกู้ยืมเงินจากฟีฟ่า ในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมฯ ซึ่งมีการกู้ยืมเงินจำนวน 155 ล้านบาท ส่งผลให้ฟีฟ่าต้องทยอยหักเงินสนับสนุนจากสมาคมฯ ไปจนถึงปี 2573 นั่นหมายความว่า ไม่ว่านายกสมาคมฯ คนใดจะเข้ามารับตำแหน่งในอนาคตก็ต้องแบกรับภาระนี้ต่อไป
ปมเงินเดือนอดีตนายกฯ และข้อครหาเรื่องโปร่งใส
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงมากคือ เงินเดือนของอดีตนายกสมาคมฯ ที่สูงถึงเดือนละ 1 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงค่าตอบแทนจากตำแหน่งประธานไทยลีก โดย พล.ต.อ.สมยศ เคยกล่าวอ้างว่า เขาได้บริจาคเงินเดือนที่ได้รับคืนให้กับสมาคมฯ เป็นจำนวน 32 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีการคืนเงินดังกล่าวจริง ทำให้เรื่องนี้ยังเป็นข้อสงสัยในสายตาของสาธารณชน
ฟุตบอลไทย กับอนาคตที่ต้องเดินต่อ
ฟุตบอลไทยถือเป็นกีฬาที่มีคนติดตามมากที่สุดในประเทศ โดยมีผู้ชมกว่า 70% ของประชากร และยังเป็นกีฬาที่มีนักกีฬามากที่สุดรองจากมวยไทย มาดามแป้งให้คำมั่นว่า เธอและทีมบริหารจะทำทุกอย่าง เพื่อปกป้องและพัฒนาวงการฟุตบอลไทย โดยให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการบริหารที่มีประสิทธิภาพ
เธอเชื่อว่าหากสมาคมฯ สามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ดี และสร้างระบบการเงินที่โปร่งใส วงการฟุตบอลไทยจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงแฟนบอลที่เป็นหัวใจสำคัญของกีฬานี้
ดราม่าครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบริหารองค์กรกีฬาที่ต้องอาศัยความโปร่งใสและความรับผิดชอบอย่างสูง การแบกรับหนี้สินจากอดีตเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับผู้นำองค์กรใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญคือการหาทางแก้ไขอย่างเป็นระบบและไม่ทำให้เกิดปัญหาแบบเดิมในอนาคต
แม้เส้นทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ มาดามแป้งยืนยันว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ และพร้อมเดินหน้าต่อไป เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับวงการฟุตบอลไทย ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ