ย้อนจุดเริ่มต้นข้อพิพาท มาดามแป้ง - สมยศ ที่สมาคมต้องแบกหนี้ 500 ล้าน จับผิดข้อพิรุธลูกหนังไทย
นาทีนี้คงต้องบอกว่า มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยหญิง คนแรกของไทยและคนแรกแห่งเอเชีย ในฉายา “มือประสาน 10 ทิศ” ได้รับกำลังใจอย่างเหลือล้น หลังจากเมื่อวานนี้สุดกลั้น ปล่อยโฮกลางงานแถลงข่าว เมื่อ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกศาลฎีกาพิพากษา ให้ชดใช้ค่าเสียหาย 360 ล้าน พร้อมดอกเบี้ย แก่ บ.สยามสปอร์ต นับแต่วันฟ้อง จนถึง วันชำระเสร็จ
กลายเป็นวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ครั้งใหม่ ของสมาคมฯ ภายใต้สมัยการดูแลของ มาดามแป้ง ทั้งที่เธอไม่ได้ก่อ
สารพัดแรงกดดันถาโถมประโคมข่าว จนท้ายที่สุดเสมือนเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้เธอตัดสินใจแถลงข่าวเปิดใจและแฉเบื้องหลัง การใช้เงินสุดพิลึกของวงการลูกหนังไทย และประกาศเดินหน้าฟ้องร้อง พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีตนายกสมาคมฯ ผู้ตัดสินใจฉีกสัญญาจนสร้างความเสียหายให้สมาคมจนเกิดหนี้ก้อนนี้ทันที
ย้อนจุดเริ่มต้นข้อพิพาท ต่อสู้ในชั้นศาลกันมาเกือบ 10 ปี
สัญญานี้เกิดขึ้นในสมัย นายวรวีร์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้แต่งตั้งให้ บ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท เป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฯ ตั้งแต่ปี 2556-2565 โดยได้รับสิทธิในการจัดหาสปอนเซอร์ การถ่ายทอดสด รวมถึงสิทธิทางการตลาดที่เกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลของสมาคมทั้งหมด แม้เม็ดเงินจากสปอนเซอร์ต่าง ๆ จะไหลผ่านสยามสปอร์ต ปีละหลายร้อยล้านบาท แต่ก็มีรายจ่ายที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดค่อนข้างมากต่อปี
แต่พอมาปี 2559 สมัย สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เป็นนายกสมาคมฯ กลับมีการสั่งยกเลิกสัญญานี้ โดยอ้างว่า สัญญามีความผูกขาด บางส่วนไม่ชัดเจน และไม่เป็นธรรม นำมาซึ่งการฟ้องร้องกันขึ้น ตอนแรกแยกเป็น 2 คดี คดีที่ บ. ซีนิแพล็กซ์ บริษัทผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบสมาชิก ยื่นฟ้องบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท กับคดีที่สยามสปอร์ต ยื่นฟ้อง สมาคมฯ แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาบอกให้รวมเป็นคดีเดียว
ซึ่งศาลชั้นต้น อุทรณ์ ฎีกา ต่างพิพากษายืนให้ สมาคมฯ ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งฯ พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ บ.สยามสปอร์ต ในจำนวนแตกต่างกัน คือ 50 450 และท้ายที่สุด 6 มีนาคม คำพิพากษาศาลฎีกา ให้สมาคม จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) โจทก์ เป็นเงิน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้าน
สรุปข่าว
มาดามแป้ง หมดความอดทน เปิดเผยข้อพิรุธไม่ชอบมาพากลจากการบริหารงานของ “กรรมการชุดเก่า”
- หนี้สินล้นพ้น วันที่เธอเข้ามารับตำแหน่ง สมาคมฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพียง 27 ล้านบาท แต่กลับมีหนี้สินที่ต้องชำระ 132 ล้านบาท
- กรรมการชุดเก่า ขอกู้เงินระยะยาวจาก FIFA ล่วงหน้า 10 ปี แต่เบิกไปครั้งเดียว 155 ล้านบาท และต้องทยอยจ่ายคืนทุกปี โดยหักออกจากงบสนับสนุนสมาชิกรายปีจาก FIFA 5 แสนดอลลาร์ หรือพูดง่ายๆว่า จากที่ไทยเคยได้งบสนับสนุน 42 ล้านต่อปี เหลือเพียง 25 ล้านต่อปีเท่านั้น
- ตัวเธอตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ไม่เคยรับเงินเดือนเพราะถือว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
แต่เป็นกรรมการที่อาสามา แต่อดีตนายกฯคนก่อน พบว่ามีการ รับเงินเดือน 2 ที่ 1 ล้านบาท ไม่รวมโบนัส ทั้งที่ไม่สมควรได้รับ แม้อดีตนายกฯ จะมีการชี้แจงว่าได้นำเงินเดือนทั้งหมด 32 ล้านบาทคืนให้สมาคมฯ แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่พบหลักฐานการคืนเงินดังกล่าว
- กรรมการชุดเก่า ขายสิทธิ์การถ่ายทอดสดในต่างประเทศไปแล้วทั้งหมดทั้ง ไทยลีก 1, ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 และทางสมาคมฯ ต้องไปซื้อลิขสิทธิ์เหล่านี้คืนมา แต่ยังมีสิทธิ์ที่เกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ของทีมชาติไทยที่ถูกขายไปให้ต่างชาติ perform มาเลเซีย และสมาคมฯ ไม่สามารถซื้อกลับมาได้ นอกจากรอจนกว่าจะหมดสัญญา ปี 2571 2 ส่วน
Data Analysist เป็นข้อมูลการถ่ายทอดสด สำหรับวิเคราะห์สถิติการแข่งขัน เช่น เปอร์เซ็นต์การครองบอล จำนวนการเข้าทำประตู
Betting Rights คือสิทธิในการนำ Data Analysist ไปใช้ตามจุดประสงค์พิเศษได้เลย
- ค่าทนายชั้นฎีกา 30 ล้าน เข้าข่ายฉ้อโกงฟอกเงิน หรือไม่ ?
ทั้งที่ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทรณ์ ใช้จ่ายมากสุดแค่ 7 แสนบาทเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตกลงกันไว้ว่าจะจ่ายเพียง 300,000 บาท โดยค่าทนายนี้ถูกอนุมัติ ในสมัยของอดีตนายกสมาคมฯ จึงมีการตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นการรับผลประโยชน์แอบแฝง หรือ ฉ้อโกงและฟอกเงิน หรือไม่? ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใช้เวลาราวๆ 1 เดือน
ทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้วันนี้ มาดามแป้ง ตัดสินใจฟ้องไล่เบี้ยชดใช้ค่าเสียหายกับ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม้กฎหมาย ไม่ได้ระบุให้อดีตนายกฯต้องชดใช้ส่วนตัว เนื่องจากกระทำไปตามภาระหน้าที่ แต่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76 ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า
" ถ้าการกระทำตามหน้าที่ของผู้แทนของนิติบุคคล (อดีตนายกฯ) เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น (บ.สยามสปอร์ต) นิติบุคคล (สมาคมฯ) นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่ไม่สูญเสียสิทธิ ที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้ก่อความเสียหาย (อดีตนายกสมาคมฯ)
แต่ยังไงก็ตามหลายคนคาดหวังแนวทางการไกล่เกลี่ย มากกว่า การรอการต่อสู้ในชั้นศาลเพราะมันนาน เนื่องจากรู้ว่า สมญานาม มือประสานสิบทิศ ของมาดามแป้ง ไม่ได้มาเพราะขำๆ แต่เธอนั้น นอกจากความสามารถ ความร่ำรวย มากบารมี เธอยังมีคอนเนคชั่นกับผู้คนอย่างกว้างขวาง ซึ่งนั่นรวมถึง คุณระวิ โหลทอง ประธานบริษัท สยามสปอร์ต คู่กรณีด้วย น่าจะเป็นผลดีต่อสมาคมมากกว่า แต่ ใครที่ทำผิด ก็สมควรต้อง ชดใช้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ...และผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ท่าน นายกฯสมาคมหญิง ที่ชื่อ มาดามแป้ง ฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้นะคะ
ที่มาข้อมูล : -
ที่มารูปภาพ : Facebook มาดามแป้ง
ณัฏฐ์อาภา ผ่องทิพาภรณ์
(จ๊ะโอ๋)