
- เบื้องหลังตัวเลข 259 : 1 – คำถามที่ต้องขบคิด -
ตัวเลข "259 : 1" – กลายเป็นจุดสนใจในถกเถียงเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ระบุว่า จากชาวต่างชาติ 260 คนที่ถูกช่วยเหลือ มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่ถูกหลอกลวง ส่วนที่เหลือสมัครใจเดินทางไปยังพื้นที่ทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อย่างไรก็ตาม ข้อความนี้ได้ก่อให้เกิดคำถามและข้อโต้แย้งมากมาย โดยเฉพาะจากนักการเมืองอย่าง นายกัณวีร์ สืบแสง ซึ่งมองว่าตัวเลขดังกล่าวอาจสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของกระบวนการคัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์ของไทย
- ข้อเท็จจริง หรือ ความคลาดเคลื่อน? -
(1) เต็มใจไปทำงาน หรือ ถูกหลอกไป?
ตำรวจยืนยันว่า มีเพียง 1 รายที่ถูกหลอก ส่วนที่เหลือสมัครใจไป อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้เสียหายบางส่วนถูกหลอกให้มาทำงานในไทย แต่ถูกส่งต่อไปยังฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน และเมื่อเข้าไปแล้ว กลับถูกยึดพาสปอร์ต กักตัว และบังคับให้ทำงาน หากเป็นเช่นนี้จริง คนเหล่านี้ถือเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือไม่?
(2) การคัดกรองมีประสิทธิภาพหรือไม่?
นายกัณวีร์ตั้งข้อสังเกตว่า หากกระบวนการคัดกรองมีประสิทธิภาพเพียงพอ เหตุใดจึงมีเพียง 1 รายที่ถูกจัดว่าเป็นเหยื่อ ในเมื่อมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ตามนิยามสากล เช่น การหลอกลวง การกักขัง และการใช้ความรุนแรง นี่คือปัญหาของระบบ หรือเป็นเพียงข้อผิดพลาดของกระบวนการแยกเหยื่อออกจากผู้สมัครใจ? นอกจากนี้ เขายังตั้งคำถามถึงวิธีการคัดกรองของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่ และเหตุใดผู้ที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ เช่น ถูกยึดพาสปอร์ต ขาดการติดต่อกับครอบครัว และมีรายงานการถูกบังคับใช้แรงงาน ถึงไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นเหยื่ออย่างเป็นทางการ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ของกระบวนการช่วยเหลือเหยื่อที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน
(3) ไทยเป็นเพียงทางผ่าน หรือ จุดหมายปลายทาง?
ผบช.สอท. ชี้ว่า ไทยไม่ได้เป็นเพียง "ทางผ่าน" ของขบวนการค้ามนุษย์ แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและอินเทอร์เน็ตที่ดี ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถใช้ไทยเป็นจุดพักพิงหรือแหล่งปฏิบัติการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การที่พบกรณีที่นายทุนจีนสามารถเช่าที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อจัดตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์ อาจสะท้อนถึงช่องโหว่ของระบบตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องได้รับการแก้ไข
- ปฏิกิริยาของฝ่ายการเมือง -
กัณวีร์ สืบแสง ตั้งคำถามต่อแนวทางการคัดกรองของรัฐ
นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อจากพรรคเป็นธรรม แสดงความไม่พอใจต่อแนวทางของเจ้าหน้าที่รัฐในการจัดการกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการชี้แจงของตำรวจไซเบอร์ที่ระบุว่ามีเพียง 1 คนจาก 260 คนที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ เขาระบุว่าการคัดกรองเหยื่อในลักษณะนี้อาจทำให้ไทยถูกมองว่าละเลยปัญหาการค้ามนุษย์ และอาจมีช่องโหว่ที่ต้องได้รับการแก้ไข
กัณวีร์ตั้งคำถามว่า เหตุใดบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการเป็นเหยื่อ เช่น ถูกกักขัง ยึดพาสปอร์ต และบังคับใช้แรงงาน จึงไม่ได้รับการระบุว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ เขายังเตือนว่าหากไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง ไทยอาจถูกจับตามองในระดับนานาชาติว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนอย่างที่ควร
- เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในเมืองชเวโก๊กโก่ -
ขณะเดียวกัน กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) ได้ดำเนินการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา โดยให้สื่อต่างชาติ รวมถึง AFP เข้าไปบันทึกภาพกลุ่มคนที่ถูกควบคุมตัวจากขบวนการเหล่านี้ พร้อมประกาศจะขจัดสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดสิ้นจากพื้นที่ของตน BGF ได้ลงทะเบียนและเตรียมส่งมอบบุคคลราว 10,000 คนที่เชื่อมโยงกับขบวนการนี้ให้กับทางการไทย โดยมีการส่งตัวข้ามแดนมาทางแม่สอดเป็นล็อต ๆ ครั้งละ 500 คน

สรุปข่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ทาง BGF ได้ส่งตัวชาวต่างชาติ 261 คน จาก 20 ประเทศ รวมถึงจีน เอธิโอเปีย มาเลเซีย เนปาล เคนยา และฟิลิปปินส์ ให้กับทางการไทยแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ประเทศไทยจะรับมือกับกลุ่มบุคคลจำนวนมากที่ถูกส่งตัวมานี้อย่างไร? การคัดกรองและให้ความช่วยเหลือจะครอบคลุมและแม่นยำเพียงพอหรือไม่?
- เดิมพันของประเทศไทย -
หากกระบวนการคัดกรองไม่แม่นยำ อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล ทั้งด้านสิทธิมนุษยชนและความน่าเชื่อถือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ในทางกลับกัน หากไทยสามารถดำเนินการปราบปรามได้จริงจัง และพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการปล่อยปละละเลย จะสามารถยกระดับความเชื่อมั่นจากประชาคมโลกได้
---------------------------
รัฐบาลไทยได้แสดงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเป็นระบบ ด้วยการปรับปรุงกระบวนการคัดกรอง การเสริมสร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ และการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด แนวทางนี้จะช่วยให้ไทยสามารถก้าวข้ามปัญหาที่เกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลกว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ในทุกระดับ