
หลังจากที่รัฐบาลประสบความสำเร็จในการดำเนินมาตรการ "ตัดไฟ-น้ำมัน-เน็ต" บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อสกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ ล่าสุดรัฐบาลได้ขยายมาตรการดังกล่าวมาสู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ 1 เกาะ ใน 4 จังหวัด แต่คำถามสำคัญคือ มาตรการนี้จะสามารถยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชนได้จริงหรือไม่?
"จุดเปลี่ยน" สำคัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีมติให้ขยายมาตรการระงับการจำหน่ายสาธารณูปโภคพื้นฐานในพื้นที่เสี่ยง ครอบคลุม อำเภออรัญประเทศ (สระแก้ว) อำเภอกาบเชิง (สุรินทร์) อำเภอภูสิงห์ (ศรีสะเกษ) และพื้นที่จังหวัดตราด-เกาะกง
แต่สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ การ "ยกระดับ" มาตรการความมั่นคงชายแดนแบบบูรณาการ โดยเฉพาะการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดสระแก้ว ระยะทาง 165 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 286 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกว่า 55 กิโลเมตร และควบคุมการเข้า-ออกอย่างผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ความท้าทาย" สำคัญของการดำเนินมาตรการนี้อยู่ที่การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่กองทัพบก ตำรวจ ฝ่ายปกครอง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กสทช. และกรมศุลกากร โดยแต่ละหน่วยงานต้องเร่งดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มข้น ทั้งการลาดตระเวน การตรวจสอบจุดผ่านแดน การควบคุมสัญญาณโทรคมนาคม และการตรวจสอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า

สรุปข่าว
แต่ "คำถามสำคัญ" ที่ต้องติดตามคือ มาตรการเหล่านี้จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนหรือไม่? เพราะที่ผ่านมา แม้จะมีการจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวนมาก แต่อาชญากรก็ยังคงปรับเปลี่ยนรูปแบบการกระทำผิดอยู่เสมอ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากขึ้น
"ความสำเร็จเบื้องต้น" ที่เห็นได้ชัดคือ การระงับบัญชีม้าได้กว่า 1.75 ล้านบัญชี ส่งผลให้อัตราการทุจริตลดลง 13% ต่อเดือน และลดลงถึง 40% ตั้งแต่เริ่มมาตรการ แต่สิ่งที่ต้องจับตามองคือ การ "ย้ายฐาน" ของกลุ่มอาชญากรไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่ยังไม่มีมาตรการเข้มงวด
"บทสรุป" ของความสำเร็จในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติครั้งนี้ จึงขึ้นอยู่กับ "3 ปัจจัยสำคัญ" คือ (1) ความต่อเนื่องของนโยบาย (2) การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน และ (3) ความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแส ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน
คำถามสุดท้ายที่น่าคิดคือ หากมาตรการนี้ประสบความสำเร็จ รัฐบาลควรพิจารณาขยายผลไปยังพื้นที่ชายแดนอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงด้วยหรือไม่? เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ และนี่อาจเป็นโอกาสในการยกระดับความมั่นคงของประเทศไทยในภาพรวม
ที่มาข้อมูล : TNN เรียบเรียง
ที่มารูปภาพ : Freepik