CNN ไล่ออกพนักงาน 3 ราย ไม่ฉีดวัคซีนโควิดก่อนกลับมาทำงาน
สำนักข่าว CNN ไล่ออกพนักงาน 3 คน เนื่องจากละเมิดนโยบายของบริษัท กลับเข้าไปทำงานที่สำนักงานโดยไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อน
สำนักข่าว CNN ไล่ออกพนักงาน 3 คน เนื่องจากละเมิดนโยบายของบริษัท กลับเข้าไปทำงานที่สำนักงานโดยไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อน ถือหนึ่งในตัวอย่างแรก ของบริษัทอเมริกันรายใหญ่ ที่เลิกจ้างพนักงาน เนื่องจากเพิกเฉยต่อคำสั่งให้ฉีดวัคซีนในที่ทำงาน
นอกจากนี้ยังเตือนให้พนักงานตระหนักถึงข้อกำหนดของบริษัท ที่ให้พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนต้านโควิดก่อนกลับเข้าสำนักงาน หรือออกไปทำข่าว เนื่องจากพวกเขามีโอกาสที่จะสัมผัสติดต่อกับพนักงานคนอื่นๆ
เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า ซัคเคอร์ ไม่ได้ระบุ ว่าพนักงานที่ถูกไล่ออกทำงานที่ไหน ดำรงตำแหน่งอะไร หรือค้นพบการละเมิดคำสั่งให้ฉีดวัคซีนอย่างไร ขณะที่ CNN ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น นอกเหนือจากบันทึกภายในดังกล่าว
รายงาน ระบุว่า ขณะนี้ สำนักงานส่วนใหญ่ของ CNN ได้กลับมาเปิดทำการ และพนักงานฝ่ายข่าวมากกว่า 1 ใน 3 ได้กลับเข้าไปทำงานแล้ว โดยพนักงานทุกคนที่สำนักงานในแอตแลนตา วอชิงตัน และลอสแอนเจลิส จะต้องสวมหน้ากากอนามัย ยกเว้นแค่ตอนรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ หรืออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวที่มิดชิด ทางบริษัทยังแนะนำให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัย แม้ขณะอยู่ในสถานที่ที่ไม่ได้ออกกฎบังคับ
ทั้งนี้ CNN ใช้ระบบการไว้วางใจ แทนที่จะพิสูจน์สถานะการฉีดวัคซีน แต่คาดว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะต้องมีการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการ ขณะที่แผนการให้พนักงานทั้งหมดกลับเข้าสำนักงานในวันที่ 7 กันยายนนี้ จะถูกเลื่อนออกไปจนถึงกลางเดือนตุลาคมแทน
ก่อนหน้านี้บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ รวมทั้ง Facebook และ Google กำหนดให้พนักงานฉีดวัคซีนต้านโควิดก่อนกลับไปที่สำนักงาน ขณะที่บางบริษัท รวมถึง The Washington Post เพิ่มการฉีดวัคซีนต้านโควิดในเงื่อนไขการจ้างงาน แต่มีเพียงไม่กี่บริษัทที่อธิบายอย่างชัดเจนว่า จะมีผลตามมาอย่างไรสำหรับพนักงานที่ละเมิดนโยบายให้ฉีดวัคซีนต้านโควิดของบริษัท