
ทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (15 มี.ค.) รับทราบเรื่องที่สหรัฐฯ ขับไล่เอกอัคราชทูตแอฟริกาใต้ออกจากประเทศ พร้อมกับระบุว่ารู้สึกเสียใจกับเรื่องดังกล่าว แต่ก็ยังยืนยันว่า แอฟริกาใต้ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ประโยชน์ร่วมกันกับสหรัฐฯ อยู่ พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรักษามารยาททางการทูตเอาไว้
ขณะที่มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ออกมาระบุถึงสาเหตุที่สหรัฐฯ ขับไล่ อิบราฮิม ราซูล เอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ออกจากประเทศ ว่า ทูตแอฟริกาใต้รายนี้เป็นนักการเมืองที่เหยียดเชื้อชาติ และเป็นผู้ที่เกลียดชังสหรัฐฯ รวมถึงตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ด้วย

สรุปข่าว
ราซูล เริ่มต้นดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 มกราคม ในช่วงที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยังดำรงตำแหน่งอยู่ และจากข้อมูลระบุว่า นี่ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ราซูล ดำรงตำแหน่งในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และแอฟริกาใต้เริ่มแย่ลงนับตั้งแต่ที่ทรัมป์ประกาศตัดงบประมาณการช่วยเหลือทางการเงินแก่แอฟริกาใต้ โดยอ้างว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายที่ดิน หรือ แนวทางการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์จากที่ดิน และสิทธิ์ในการถือครองที่ดินของแอฟริกาใต้ รวมถึงเรื่องที่แอฟริกาใต้ยื่นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธ์ของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ

Natnicha Nijpol
(Natnicha)