เมียนมาอภัยโทษให้ "อองซาน ซูจี" ใน 5 คดี ลดระยะเวลาจำคุกลงไป 6 ปี

 รัฐบาลเมียนมา อภัยโทษให้แก่ "อองซาน ซูจี" ใน 5 คดี ลดระยะเวลาการจำคุกลงไป 6 ปี แต่อีก 14 คดียังไม่ได้รับการอภัยโทษ

สื่อทางการของรัฐบาลทหารเมียนมารายงานว่า อองซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมา ที่ถูกควบคุมตัวหลังกองทัพเมียนมายึดอำนาจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จะได้รับการอภัยโทษพร้อมกับนักโทษคนอื่นๆ อีกกว่า  7,000 คน ที่ได้รับการนิรโทษกรรมเนื่องในโอกาสวันเข้าพรรษา 

โดย อองซาน ซูจี ได้รับการอภัยโทษใน 5 คดี ลดระยะเวลาการจำคุกลงไป 6 ปี แต่อีก 14 คดียังไม่ได้รับการอภัยโทษ ส่งผลให้เธอยังไม่ได้รับอิสรภาพแม้จะได้รับการอภัยโทษก็ตาม

ก่อนหน้านี้ อองซาน ซูจี ถูกศาลตัดสินให้มีความผิดในหลายข้อหา ตั้งแต่ทุจริตเป็นเจ้าของวิทยุสื่อสารโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ศาลพิพากษาให้จำคุก ซู จี รวม 33 ปี อย่างไรก็ดี สื่อของรัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า อองซาน ซูจี ถูกย้ายออกจากจากเรือนจำ ไปกักบริเวณในอาคารของรัฐบาลแทน

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศอภัยโทษ อองซาน ซูจี และนักโทษอีกจำนวนมาก รัฐบาลทหารเมียนมาก็ได้ประกาศขยายเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน 

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศยังคงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อีกทั้งการเลือกตั้งที่รัฐบาลเคยกล่าวว่าจะมีขึ้นในเดือนนี้ ต้องใช้เวลาในการเตรียมการอีกมาก ดังนั้นจึงต้องขยายเวลาภาวะฉุกเฉินออกไป

นับแต่ยึดอำนาจการปกครองประเทศ รัฐบาลทหารเมียนมาขยายเวลาภาวะฉุกเฉินมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า เพื่อให้สะดวกในการเดินหน้ากวาดล้างกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

ด้าน แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯ รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่งที่เมียนมายืดระยะเวลาภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้เมียนมาตกสู่ความรุนแรงและความไร้เสถียรภาพลึกยิ่งขึ้น และย้ำว่า นับแต่กองทัพเมียนมายึดอำนาจมาเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง กองทัพเมียนมาได้โจมตีทางอากาศต่อชนกลุ่มน้อยหลายร้อยครั้ง เผาทำลายบ้านเรือนประชาชนไปนับแสนหลัง และทำให้ประชาชนกว่า 1 ล้าน 6 แสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัยและกลายเป็นผู้อพยพ ดังนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ จะร่วมมือกับประชาคมโลกใช้กลไกทางการเมืองและเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลทหารเมียนมาให้คืนประชาธิปไตยให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด

ภาพจาก รอยเตอร์