"สลัมพม่ากลางภูเก็ต" ชาวต่างชาติรู้ แต่รัฐเพิ่งรู้ เรื่องนี้เป็นปมมนุษยธรรม หรือคนไทยถูกเอาเปรียบ?

กับอีกกรณีที่เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ เช่นกัน เมื่อ YouTuber ช่อง Ride with Gabi เผยแพร่คลิป “สลัมต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต” นำเสนอเรื่องราวอีกด้านภูเก็ต ว่า เมืองพักผ่อนที่แสนงดงามของพวกเขา กลับมีอีกด้านที่ไม่เคยรู้
เหล่าแรงงานต่างด้าว ที่คอยดูแลพวกเขานั้น กลับมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนยากลำบาก ในชุมชนสลัมพม่าขนาดใหญ่ที่ Phuket town

ในคลิปเปิดเผยสภาพที่อยู่อาศัยที่น่าสะเทือนใจ ของหลายร้อยครัวเรือนของแรงงานพม่า
ที่มีทั้งถูกและผิดกฎหมาย

แม้สภาพที่พักราคา 3600 บาท แทบไม่ต่างอะไรจากรูหนู แสนจะสกปรก และคับแคบ การมาอยู่ที่นี่จะไม่ง่าย ทำงานหนัก เงินน้อย ผิดกฎหมาย ไร้ตัวตนและไม่มีสิทธิรักษาพยาบาล ประหนึ่งบุคคลล่องหน 

แต่โชคดีที่มีมูลนิธิ Good Shepherd foundation คอยให้การสนับสนุนการเรียนฟรีและอาหารกลางวัน

แม้ตามหลักมนุษยธรรม เราควรช่วยเหลือ เพราะเมียนมาเต็มไปด้วยสงคราม ไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต
แต่การมีชุมชนสลัมต่างด้าวผิดกฎหมาย ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อคนไทย อย่างเลี่ยงไม่ได่้

- ค่าใช้จ่ายสาธารณสุขพุ่งสูง – คนต่างด้าวใช้สิทธิรักษาฟรี คนไทยจ่ายภาษีให้

- ปัญหาโรคระบาดสุขอนามัย – โดยมากชุมชนสลัมจะเป็นชุมชนแออัดที่ยังไม่มีการจัดการด้านสาธารณสุข ระบบทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลที่ดีนัก มักเกิดโรคระบาดในชุมชน

- แย่งที่อยู่อาศัยและงานจากคนไทย – ยังมีคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีบ้าน ไม่มีที่เป็นของตัวเอง และการมีแรงงานราคาถูก ยิ่งกดค่าแรงขั้นต่ำคนไทยให้ต่ำลง กระทบเงินเดือนคนไทย

- เสี่ยงเกิดปัญหาอาชญากรรม – ไม่ใช่ว่าคนในสลัมเป็นอาชญากร แต่เพราะสลัม คือศูนย์รวมครอบครัวที่มีความยากจน เด็กๆจำนวนมาก ต้องออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร  มาช่วยพ่อแม่หาเงิน ส่วนหนึ่งหนีไม่พ้นการค้ายาเสพติด การพนัน ค้าประเวณี  เติบโตมาเป็นอาชญากรต่อไป

เราดูแลคนไทยครอบคลุมแล้วหรือยัง?

ที่สำคัญเด็ก ๆ เหล่านี้มีการศึกษา เมื่อโตขึ้นมาจะมีรายได้ แต่กลับไม่ต้องจ่ายภาษี ทั้งที่ในวันนี้พวกเขากำลัง “ใช้ทรัพยากรร่วมกับคนไทยอยู่” 

อยากถามทุกคนว่า “คุณคิดว่ารัฐควรจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้? จัดระเบียบแรงงานผิดกฎหมาย หรือ ช่วยเหลือพวกเขาไว้ในฐานะเพื่อนมนุษย์“