ทำความรู้จัก ‘หลี่ เฉียง’ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน
Editor’s Pick: ทำความรู้จัก ‘หลี่ เฉียง’ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน ตำแหน่งมือขวาของ ‘สี จิ้นผิง’
นาทีนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับ ‘หลี่ เฉียง’ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน ที่มีรายงานว่า จะได้รับการแต่งตั้งในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนให้ดำรงตำแหน่งต่อจาก ‘หลี่ เค่อเฉียง’ นายกรัฐมนตรีจีนคนปัจจุบัน
‘หลี่ เฉี่ยง’ คนสนิท ‘สี จิ้นผิง’
‘หลี่ เฉียง’ วัย 63 ปี จบการศึกษาด้านวิศวกรรมการเกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมเจ้อเจียง และปริญญาโทด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค
หลี่เป็นคนสนิทของประธานาธิบดี ‘สี จิ้นผิง’ เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำมณฑลเจ้อเจียง ในระหว่างที่ ‘สี จิ้นผิง’ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ประจำมณฑลเจ้อเจียง เมื่อปี 2004-2007 และเป็นคนที่ ‘สี จิ้นผิง’ ให้ความไว้วางใจมากที่สุด
ปัจจุบัน เขาเป็น 1 ใน 7 คนของคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง หรือโปลิตบูโร หรือ คณะผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน และยังเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมหานครเซี่ยงไฮ้
แต่ชื่อเสียงของ ‘หลี่ เฉียง’ ไม่ค่อยดีนัก จากการรับมือกับโควิด-19 ในนครเซี่ยงไฮ้ จนต้องล็อกดาวน์
นานกว่า 2 เดือน ทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบหนัก
ขณะนี้ ทั่วโลกกำลังจับตาว่าบทบาทของหลี่ เฉียง ในด้านการทำงานนโยบาย และการจัดอันดับความสำคัญเร่งด่วนในเรื่องต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร
นักปฏิบัติ ผู้มีมุมมองทางธุรกิจ
ในอดีต หลี่ เฉียง เผยตนเองว่าเป็นนักปฏิบัติที่มีมุมมองเน้นไปทางธุรกิจ แต่ด้วยความที่เขาวางตัวค่อนข้างเงียบในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เดาสัญญาณไม่ออกว่าเขาจะบริหารจัดการเรื่องภายในประเทศอย่างไรในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากสหรัฐฯ ไปพร้อม ๆ กัน
แน่นอนว่าเขาจะต้องแบกรับความรับผิดชอบในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนซึ่งก่อนหน้านี้เติบโตต่ำสุด สร้างการเติบโตในระยะยาว ตลอดจนยกระดับเศรษฐกิจจีนให้ก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงในระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของเขา
แต่นักวิเคราะห์มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเปิดประเทศ จะช่วยลดแรงกดดันในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เพราะจะทำให้คณะรัฐมนตรีของเขาสามารถหันไปแก้ปัญหาที่กดดันอื่น ๆ ได้มากขึ้น เช่น การสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน การลดอัตราว่างงานในหมู่เยาวชน และปัญหาการใช้จ่ายน้อยลงในภาคเอกชน
บททดสอบด้านเศรษฐกิจในอดีต
หลี่ เฉียง เป็นชาวเมืองเวินโจว ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเศรษฐกิจเอกชนในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 ทำให้เขาผ่านบททดสอบด้านเศรษฐกิจมาหลากหลาย
นอกจากนี้ เขายังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายอย่าง เช่น การยกระดับโมเดลการเติบโตของเมืองเวินโจวในวงกว้าง การทำให้มณฑลเจ้อเจียงมีเศรษฐกิจที่อยู่บนพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต การสร้างโรงงานของเทสลาในเซี่ยงไฮ้ และการจัดตั้งคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเซี่ยงไฮ้ เพื่อส่งเสริมเงินทุนเศรษฐกิจใหม่
ขณะที่ ในช่วงต้นปี 2013 ตอนเขาเป็นผู้ว่าการมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมณฑลที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ เขาให้คำมั่นว่าจะทำให้ เจ้อเจียงเป็นมณฑลที่มีขั้นตอนการอนุมัติน้อยที่สุดในประเทศ และมีประสิทธิภาพสูงที่สุด รวมถึงมีสภาพแวดล้อมในการลงทุนดีที่สุด
ทั้งนี้ การแต่งตั้ง หลี่ เฉียงนั้น ทำให้เขากลายเป็นผู้นำคนแรกในรอบสามทศวรรษที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในรัฐบาลกลาง มาก่อน เพราะนายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า ล้วนแต่เป็นรองนายกรัฐมนตรีมาก่อนแล้ว 5 ปี
ก่อนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงน่าจับตา “หลี่ เฉียง” ที่จะมาดำรงตำแหน่งมือขวาของประธานาธิบดีนสี จิ้นผิง คนนี้
—————
แปล-เรียบเรียง: พิชญาภา สูตะบุตร
ภาพ: Xinhua