อำลาราชินีแห่งท้องฟ้า เครื่องบิน "โบอิ้ง 747" ลำสุดท้ายก่อนเลิกผลิตถาวร
เครื่องบิน "โบอิ้ง 747" ราชินีแห่งท้องฟ้า ที่ใช้งานมามากกว่า 5 ทศวรรษ ส่งมอบลำสุดท้ายให้สายการบิน ‘แอทลาส แอร์’ ของสหรัฐฯ เนื่องจากเลิกผลิตถาวร
โบอิ้ง 747 (Boeing 747) ได้รับการขนานนามว่า เป็นราชินีแห่งท้องฟ้า มาเป็นเวลามากกว่า 50 ปี เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) ในที่สุดก็ได้ส่งมอบเครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าให้กับสายการบิน แอทลาส แอร์ ของสหรัฐฯ ที่โรงงานของโบอิ้ง ในเมืองเอเวอเรตต์ รัฐวอชิงตัน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ด้วย
เครื่องบินลำสุดท้ายนี้ถูกใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ที่ข้างจมูกของเครื่องบินด้วย คือ มีสติกเกอร์ข้างจมูกที่แสดงความเคารพต่อ โจ ซัทเทอร์ หัวหน้าวิศวกรของโครงการโบอิ้ง 747 ซึ่งเสียชีวิตในปี 2016 โดยหลายคนถือว่าเป็นบิดาของเครื่องบินลำนี้เลยทีเดียว
นอกจากนี้ มีผู้แทนจากบริษัทต่าง ๆ ที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 ก็เข้ามาร่วมในงานส่งมอบครั้งนี้ด้วย
ด้าน คาร์สเตน สโปร์ ซีอีโอของลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า โออิ้ง 747 เป็นตัวแทนของหลายสิ่งหลายอย่าง เหนือสิ่งอื่นใดมันเป็นสัญลักษณ์ของโลก แต่ขณะนี้ขนาดของมันเล็กลงมาก
แม้ว่าโบอิ้ง 747 ในท้ายที่สุดแล้วจะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคงมากกว่าเงินสด (cash cow) แต่ในปีแรก ๆ ต้องใช้ต้นทุนสูงมาก และใช้งบประมาณในการพัฒนามากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ทำให้โบอิ้งเกือบล้มละลายเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1966 สายการบินแรกที่ได้ใช้เครื่องบินนี้ คือ แพนอเมริกันเวิลด์แอร์เวส์ หรือ แพนแอม โดยโบอิง 747 นี้ เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้น ก่อนที่แอร์บัส A-380 จะเกิดขึ้น ซึ่งโบอิ้ง 747 เป็นเครื่องบินที่ถูกออกแบบใหม่ ไม่มีต้นแบบ มี 2 ชั้น และเป็นเครื่องยนต์คู่ รวม 4 เครื่องยนต์
เมื่อเวลาผ่านไปก็มีเครื่องบินที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้น และใช้ต้นทุนน้อยกว่า ก็ทำให้ความนิยมของโบอิ้ง-747 ลดลง โดยรุ่นสุดท้ายของโบอิ้ง 747 คือ B747-8I (โบอิง 747-8 Intercontinental) ที่ถูกประกาศออกมาเมื่อปี 2005
จนเมื่อเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา ตามรายงานของ Cirium ทั่วโลกเหลือเครื่องบินโบอิ้ง 747 ที่ให้บริการผู้โดยสารเพียง 44 ลำเท่านั้น จาก 130 ลำที่เคยบันทึกไว้เมื่อสิ้นปี 2019 โดยสายการบิน ลุฟท์ฮันซ่า ก็ยังคงเป็นสายการบินที่มีโบอิ้ง 747 ให้บริการผู้โดยสารอยู่มากที่สุดที่ 19 ลำและทางสายการบินก็มุ่งมั่นที่จะรักษากลุ่มผู้โดยสารเหล่านี้เอาไว้อีกหลายปี หรืออีกหลายสิบปีข้างหน้าด้วย
ขณะที่เครื่องบินขนส่งสินค้าที่เป็นโบอิ้ง 747 ยังคงใช้งานอยู่ 314 ลำ ตามรายงานของ Cirium เช่นกัน โดยส่วนใหญ่เคยเป็นเครื่องบินโดยสารมาก่อนถูกดัดแปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ซึ่งสิ่งที่ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้เป็นที่นิยมในการขนส่งสินค้า คือ คุณสมบัติเฉพาะของเครื่องบิน เช่น ความสามารถในการโหลดขึ้นจมูกที่โดดเด่น และตำแหน่งที่ยกสูงของห้องนักบิน ทำให้ลำตัวส่วนล่างยาวตลอดแนวพร้อมสำหรับการบรรทุกสิ่งของปริมาณมาก
นอกจากนี้ โบอิ้ง 747 ก็ยังถูกใช้เป็นฐานบัญชาการทางอากาศในกรณีของสงครามนิวเคลียร์ ภัยพิบัติ หรือความขัดแย้งขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่คุกคามโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารและรัฐบาลที่สำคัญ โดยสหรัฐฯ ตั้งชื่อเครื่องบินว่า Shepherd One
และโบอิ้ง 747 ก็ยังถูกใช้เป็นเครื่องบินส่วนตัวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน โดยถูกเรียกว่า Air Force One ซึ่งมี 2 ลำกำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต จากเดิมที่ถูกกำหนดไว้ให้สำหรับสายการบินหนึ่งของรัสเซียที่ล้มละลายไปเมื่อปี 2015
ด้าน เดฟ คาลฮูน ซีอีโอของโบอิ้ง ระบุว่า ทางบริษัทอาจยังไม่ออกแบบเครื่องบินรุ่นใหม่เป็นเวลาอย่างน้อยอีกหนึ่งทศวรรษ เรียกได้ว่าโบอิ้ง 747 เป็นตำนานของโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับฉายา ราชินีแห่งท้องฟ้า ก็ถือว่าเหมาะสมเลยทีเดียว
ภาพจาก AFP