
เอทีพาวเวอร์ทู เอโรสเปซ (AT2 Aerospace) บริษัทย่อยของล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) พัฒนาแซดวัน (Z1) เรือเหาะ (Airship) พลังงานไฮโดรเจน ที่สามารถขึ้นลงที่ไหนก็ได้ในโลกแม้จะเป็นพื้นที่ห่างไกลในแนวดิ่ง ด้วยระบบที่เรียกว่าแอร์ คูชชัน (Air Cushion) ซึ่งจอดได้ทุกสภาพแวดล้อมแม้แต่บนผิวน้ำ

สรุปข่าว
เรือเหาะขึ้นลงแนวดิ่งพลังงานไฮโดรเจน
เรือเหาะ Z1 ได้รับการออกแบบให้มีขนาดยาว 87.5 เมตร กว้าง 46.3 เมตร และสูง 23.5 เมตร รูปทรงได้รับการออกแบบให้ส่วนบอลลูนมีลักษณะเป็นกลีบซ้อนสามกลีบ (Tri-lobe) แบบเรียงประกบกลีบกลางด้วยกลีบที่เตี้ยกว่า เพื่อลดพื้นที่อัดก๊าซฮีเลียม พร้อมช่วยลดน้ำหนักรวมตัวเรือเหาะซึ่งส่งผลให้การยกระดับตัวเรือเหาะขึ้น - ลง ทำได้ดีขึ้นในทุกสภาพพื้นผิว
กลไกขับเคลื่อนหลักใช้พลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Hydrogen Fuel Cell) ที่ออกแบบให้ส่งกำลังไฟฟ้าไปยังระบบแอร์ คูชชัน (Air Cushion) ที่เป็นใบพัดดันเรือเหาะขึ้นบินและลงจอดในแนวดิ่งโดยการหมุนกลับด้านพัดลมใต้ฐานเรือเหาะ มีระยะการบินสูงสุด 1,400 ไมล์ทะเล (nm) หรือประมาณ 2,590 กิโลเมตร เมื่อเติมไฮโดรเจนเต็มความจุที่ออกแบบ
ในขณะที่ส่วนโดยสารหลักที่อยู่ตรงกลางด้านล่างเรือเหาะจะรองรับผู้โดยสารทั้งหมด 19 คน รองรับน้ำหนักบรรทุกทั้งหมด 20.8 ตัน เป็นพื้นที่ขนส่งสินค้า (Cargo) สูงสุดร้อยละ 40 หรือประมาณ 8.3 ตัน ซึ่งเคลมว่าจะมีต้นทุนการขนส่งน้อยกว่าอากาศยานปีกตรึง (Fixed-wing aircraft) เมื่อเทียบที่ระยะทางเท่ากัน
ทั้งนี้ ทางบริษัทตั้งเป้าให้ใช้พลังงานจากไฮโดรเจนและการลอยตัวของก๊าซฮีเลียมซึ่งจะเป็นสัดส่วนที่มีประสิทธิภาพในแง่ต้นทุนมากที่สุด โดยเคลมว่าเมื่อใช้พลังงานจากทั้ง 2 แหล่งพลังงาน จะสามารถบรรทุกสินค้าและผู้โดยสารไปพร้อมได้ไกลถึง 1,000 ไมล์ หรือประมาณ 1,600 กิโลเมตร
สถานะเรือเหาะขึ้นลงแนวดิ่งพลังงานไฮโดรเจน
จุดเด่นสำคัญที่ AT2 Aerospace เชื่อว่าทำให้ Z1 โดดเด่น คือความสามารถในการขึ้นลงแนวดิ่งแบบเดียวกับอากาศยานประเภท VTOL ทำได้ จึงทำให้เข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีสภาพแวดล้อมท้าทาย เช่น กลางภูเขาหิมะ ป่าลึก เกาะห่างไกล หรือแม้แต่บนผิวน้ำก็สามารถลงจอดได้ โดยยังคงจุดเด่นในด้านการขนส่งสินค้าปริมาณมาก พร้อมผู้โดยสารต่อเที่ยวบินที่มากกว่า VTOL ในราคาที่ต่ำกว่า
เรือเหาะ Z1 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2023 ก่อนปรับปรุงและเปิดให้บริษัทขนส่งที่ใช้เรือเหาะสั่งซื้อในปัจจุบัน ทั้งสเตรทไลน์ เอวิเอชัน (Straightline Aviation) ที่ให้บริการเรือเหาะในอังกฤษจำนวน 2 ลำ มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,680 ล้านบาท รวมถึงอาร์กติก แอร์ชิปส์ (Arctic Airships) บริษัทเดินเรือในไอซ์แลนด์อีก 2 ลำ ซึ่งมีข้อตกลงว่าอาจซื้อเพิ่มอีก 18 ลำ ในอนาคตอีกด้วย
ที่มาข้อมูล : New Atlas
ที่มารูปภาพ : AT2 Aerospace

Thanaboon Soasawang