ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ตาก เมื่อ 'ทายาทบ้านใหญ่' ปะทะ 'คลื่นลูกใหม่'
เจาะลึกการเลือกตั้งนายก อบจ.ตาก ระหว่างทายาทบ้านใหญ่ อัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ปะทะ พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ศึกชิงอำนาจท้องถิ่นที่สะท้อนการเมืองระดับชาติ
ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ตาก เมื่อ 'ทายาทบ้านใหญ่' ปะทะ 'คลื่นลูกใหม่'
ถ้าจะพูดถึงสนามเลือกตั้งที่น่าจับตามองในช่วงปลายปี 2567 นี้ การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตากในวันที่ 15 ธันวาคม ถือเป็นหนึ่งในสนามที่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะไม่ใช่แค่การชิงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นที่มีอำนาจบริหารงบประมาณกว่า 477 ล้านบาท แต่ยังเป็นการวัดพลังระหว่าง "อำนาจเก่า" กับ "พลังใหม่" ที่กำลังปะทะกันอย่างเข้มข้น
ในฐานะ "ทายาทบ้านใหญ่" นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ผู้สมัครหมายเลข 1 มาพร้อมกับความได้เปรียบหลายด้าน ทั้งการเป็นลูกสะใภ้ของอดีตนายก อบจ.ณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ และภรรยาของอดีต ส.ส.ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ เธอได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายนักธุรกิจและผู้มีอิทธิพลทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกของจังหวัด นโยบายของเธอเน้นการ "สานต่องานเดิม" ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตรแบบ "1 อำเภอ 1 ชุด"
แต่ทว่าปีนี้ "บ้านใหญ่" กลับต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ เมื่อ พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ผู้สมัครหมายเลข 2 อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการจัดเวทีปราศรัยถึง 64 ครั้ง ดึงดูดผู้ฟังรวมกว่า 50,000 คน สโลแกน "เลิกทนอยู่แบบเดิม ตากต้องเปลี่ยน" ของเขาดูจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง
น่าสนใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ยังสะท้อนภาพการแบ่งขั้วทางการเมืองระดับชาติลงมาถึงท้องถิ่น เมื่อ พ.ต.ท.อนุรักษ์ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาชนและนักการเมืองรุ่นใหม่อย่างนายณพล ชยานนท์ภักดี นายกเทศมนตรีเมืองตาก และ ส.ส.คริษฐ์ ปานเนียม ในขณะที่ฝ่ายนางอัจฉราได้แรงหนุนจากพรรคภูมิใจไทย
ความท้าทายสำคัญของผู้ที่จะมาเป็นผู้นำท้องถิ่นคือการบริหารจัดการพื้นที่ 9 อำเภอที่มีความหลากหลายทั้งวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ คำถามสำคัญที่ต้องติดตามคือ เสียงของผู้มาฟังปราศรัยจำนวนมากจะแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงได้มากน้อยเพียงใด? และระบบอุปถัมภ์แบบเดิมจะยังคงรักษาอำนาจไว้ได้หรือไม่?
เมื่อ กกต.ตากคาดการณ์ว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์เกินร้อยละ 60 จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 404,695 คน การตัดสินใจของชาวตากในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ จึงไม่ใช่แค่การเลือกตัวบุคคล แต่เป็นการเลือกอนาคตของการเมืองท้องถิ่นว่าจะยังคงเดินหน้าในรูปแบบเดิม หรือพร้อมที่จะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ภาพ อบจ.ตาก
ข่าวแนะนำ