กว่าจะเป็น ผบ.ตร. : เส้นทางชีวิต พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
จาก สว.สอบสวน สู่ ผบ.ตร. : เส้นทาง "บิ๊กต่าย" นายพลใหญ่ คนที่ 15
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "บิ๊กต่าย" ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 15 ภายใต้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ฉบับใหม่ เส้นทางชีวิตและการทำงานของเขาเป็นตัวอย่างของการไต่เต้าจากตำแหน่งเล็กๆ สู่ตำแหน่งสูงสุดในวงการตำรวจไทย แต่กว่าจะก้าวถึงจุดนี้ได้ เขาต้องผ่านการรักษาการในตำแหน่ง ผบ.ตร. มาแล้วถึงสองครั้ง
บิ๊กต่ายเกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2508 ที่จังหวัดราชบุรี ปัจจุบันอายุ 58 ปี เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ก่อนเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 25 และสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 41 จุดเริ่มต้นของอาชีพตำรวจของเขาอยู่ที่ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง
ตลอดเส้นทางการรับราชการ บิ๊กต่ายได้สั่งสมประสบการณ์ผ่านการทำงานในหน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักงานกำลังพล สำนักงานตรวจสอบภายใน สำนักงบประมาณ สำนักงานกฎหมาย โรงพยาบาลตำรวจ บังคับการสืบสวนสอบสวน โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และกองบัญชาการต่างๆ การทำงานที่หลากหลายนี้ทำให้เขามีความเข้าใจในระบบงานตำรวจอย่างลึกซึ้ง
ในช่วงก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง บิ๊กต่ายได้ดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย เริ่มจากผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) จนถึงผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ตามลำดับ
จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของบิ๊กต่ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นครั้งแรก ในช่วงที่มีความขัดแย้งภายในองค์กรตำรวจ โดยเฉพาะกรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล
ต่อมาในวันที่ 27 กันยายน 2567 บิ๊กต่ายได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทน ผบ.ตร. อีกครั้ง ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 335/2567 ลงนามโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เนื่องจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. คนเดิมจะเกษียณอายุราชการ
ผลงานของบิ๊กต่ายโดดเด่นทั้งในด้านการปราบปรามอาชญากรรมและการบริหาร เขารับผิดชอบหลักสูตร กอส. ใหม่ที่เน้นการพัฒนาทักษะตำรวจยุคใหม่ มีบทบาทสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการหลอกลวงออนไลน์ รวมถึงการปราบปรามยาเสพติด นอกจากนี้ ในด้านการบริหาร เขายังดูแลงานด้านการเงิน งบประมาณ กฎหมาย และบุคคล พร้อมทั้งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ความทุ่มเทในการทำงานของบิ๊กต่ายได้รับการยอมรับผ่านการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์หลายชั้น ล่าสุดในปี 2566 เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในหน้าที่ราชการของเขา
การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 15 ของบิ๊กต่ายเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และการปฏิรูประบบตำรวจตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและหลากหลาย รวมถึงผลงานที่โดดเด่นในอดีต สังคมไทยจึงคาดหวังว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ จะสามารถนำพาองค์กรตำรวจไปสู่การเป็นสถาบันที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน มีความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าเขาจะครบวาระเกษียณอายุราชการในปี 2569 ซึ่งหมายความว่าเขามีเวลาอีกประมาณ 2 ปีในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจ
ภาพ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข่าวแนะนำ