
รัฐสภาเวียดนามผ่านความเห็นชอบเมื่อวันอังคาร (18 กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมา กับแผนการการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยจะปลดพนักงานราชการที่ไร้ประสิทธิภาพนับแสนตำแหน่งออกไป เพื่อลดความเทอะทะของระบบราชการ หวังให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต
ปลดข้าราชการ 1 แสนตำแหน่งลดกระทรวงจาก 22 เหลือ 13 กระทรวง
ประเมินว่าจะมีข้าราชการราว 1 แสนตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าที่จะลดขนาดของหลายกระทรวง, หน่วยงาน และโครงสร้างต่าง ๆ ลงให้ได้ 20% ซึ่งนับว่านี่จะกลายเป็นการปรับโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม นับตั้งแต่ที่เปิดรับตลาดต่างประเทศ เมื่อยุคปี 1980s เป็นต้นมา
ปัจจุบันเวียดนามมี 22 กระทรวง และหน่วยงานเทียบเท่า – มีรัฐมนตรี 22 ตำแหน่ง และรองรัฐมนตรีอีก 110 ตำแหน่ง ซึ่งนับว่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับประชากร 110 ล้านคน และเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ.. สหรัฐฯ ที่มีประชากรราว 345 ล้านคน แต่มี 21 กระทรวงและหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ซึ่งแต่ละกระทรวงมีหัวหน้าเพียงคนเดียว และรองเพียงคนเดียวเช่นกัน
ภายใต้แผนการนี้ จะลดจำนวนกระทรวงลงให้เหลือ 13 กระทรวง และอีก 3 หน่วยงานเทียบเท่า เตรียมยุบ 5 กระทรวง เช่น กระทรวงแรงงาน, ผู้พิการ และกิจการสังคม
และอีกบางส่วนจะถูกรวมเข้าด้วยกัน เช่น กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ กระทรวงวางแผนและการลงทุน - กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงการก่อสร้าง - กระทรวงข้อมูลและการสื่อสาร รวมเข้ากับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น
รวมถึงสภาแห่งชาติ จะตัดคณะกรรมาธิการลง 4 ชุด โดยรวมเอาที่ทำหน้าที่เหมือนไป ไปไว้ด้วยกัน เช่น คณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ จะถูกยุบ แต่จะโอนไปให้กระทรวงต่างประเทศจัดการแทน
นอกจากนี้ จะมีการปิดสถานีโทรทัศน์, หนังสือพิมพ์ และนิตยสารหลายแห่ง ซึ่งอาจจะทำให้ข่าวสารต่าง ๆ ถูกจำกัดการนำเสนอไปด้วย

สรุปข่าว
เน้นประสิทธิภาพ ไม่เน้นความเทอะทะ
แน่นอนว่าเป้าหมายของการปฎิรูป คือ ต้องการให้การทำงานในทุกระบบ มีประสิทธิภาพ, เพิ่มประสิทธิผล และผลผลิตของหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น
แท้จริงแล้ว การปฏิรูปราชการนี้ หรือที่เรียกกันว่า Đổi Mới 2.0 นี้ เวียดนามตั้งเป้าจะทำมานานแล้ว แต่เพิ่งได้เริ่มต้นอย่างจริงจัง เป้าประสงค์ของมันชัดเจน แต่การจะทำให้ประสบความสำเร็จก็อาจไม่ใช่ง่าย ๆ
เวียดนามมีพนักงานภาครัฐราว 10% ของประชากรทั้งประเทศ หรือราว ๆ 8-9 ล้านคน (เมื่อเทียบกับประเทศไทย ที่มีกำลังคนภาครัฐราว 3 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นข้าราชการ 1.7 ล้านคน) จึงนับว่า ตัวเลขพนักงานภาครัฐของเวียดนาม มีจำนวนมากเกินความต้องการ
โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม พยายามตัดระเบียบราชการที่มันจุกจิกเกินไป (red-tape) ก่อนที่จะถึงการปรับเปลี่ยนผู้นำ ในที่ประชุมทุก ๆ 5 ปี ของการประชุมรัฐสภาแห่งชาติที่จะจัดขึ้นในปีหน้า
“ยาแรง” แต่รักษาชีวิตได้ เราต้องยอมรับมัน
“บางครั้ง เราก็จำเป็นจะต้องใช้ยาแรง, อดทนต่อความเจ็บปวด และตัดมะเร็งร้าย เพื่อให้ร่างกายที่เหลือสุขภาพดีและแข็งแรงได้ต่อไป” โต เลิมกล่าว เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
การปฎิรูปครั้งใหญ่นี้ จะเป็นหนึ่งในความพยายามสำคัญให้เศรษฐกิจเติบโตได้ 8% ตามที่นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิญ จิ๊ญ พยายามผลักดันในปีนี้ เพื่อหวังเติบโตให้ได้ 2 หลักในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
แน่นอนว่าการประกาศลดข้าราชการครั้งใหญ่นี้ กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากในวงการราชการ หลายคนกังวลเรื่องการหางานใหม่ ท่ามกลางการไหล่บ่าของคนงานจากต่างประเทศ เข้ามาในภาคเอกชนมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่าง เจือง ฝ่าน ข้าราชการในกรุงฮานอย บอกว่า ตอนนี้ต้องเริ่มหางานใหม่แล้ว แต่อายุก็ปาไป 45 ปีแล้ว การหางานใหม่ในภาคเอกชนมันไม่ใช่ง่าย ๆ เลย ความท้าทายมันช่างใหญ่หลวง แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น และจะต้องปรับตัวกับมันให้ได้ เพื่อหางานทำมาจุนเจือครอบครัว
บทความโดย ภัทร จินตนะกุล
ที่มาข้อมูล : VOA / UCA News
ที่มารูปภาพ : AFP