เรียนรู้จาก คลัสเตอร์ยาดอง : เมทานอลในเหล้าเถื่อน ภัยที่ต้องแก้ไข
ผลกระทบของเหล้าเถื่อนต่อสุขภาพและสังคม: เรียนรู้จากคลัสเตอร์ยาดองเขตมีนบุรี
โศกนาฏกรรมซ้ำรอยจากยาดองมรณะ: บทเรียนที่สังคมต้องร่วมแก้
กรณีซ้ำรอยของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากการบริโภคเหล้ายาดองที่มีสารเมทานอลเจือปน ในพื้นที่มีนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ธุรกิจเหล้าเถื่อนเบื้องหลังเครื่องดื่มที่กลายเป็นยาพิษเอาชีวิตผู้คนจำนวนมาก ทั้งผู้ผลิต ผู้ค้า รวมถึงผู้บริโภค ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศของปัญหาซับซ้อนที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการขจัด
ธุรกิจมรณะที่แฝงอยู่ในชุมชน
จากข้อมูลเชิงลึกของกรมสรรพสามิตที่ตรวจสอบการลักลอบผลิตเหล้าเถื่อนในพื้นที่ พบว่ามีการดำเนินกิจการลักษณะนี้แพร่หลายในย่านชุมชนที่มีกำลังซื้อต่ำ โดยหวังผลกำไรจากการใช้วัตถุดิบราคาถูกอย่างสารเมทานอล มาผสมในแอลกอฮอล์เพื่อลดต้นทุน เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเหล้าดองยาหรือสุราเถื่อนแล้ววางขายในราคาที่ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของความเหลื่อมล้ำ
การสั่งปิดร้านยาดองมากกว่า 18 แห่งในกรุงเทพฯ ชี้ให้เห็นว่าแหล่งผลิตและจำหน่ายเหล่านี้ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ชุมชนใดชุมชนหนึ่ง แต่กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นภาครัฐและภาคประชาสังคมต้องขยายผลในการเฝ้าระวัง จับกุม และปิดกั้นกิจกรรมผิดกฎหมายนี้ให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่
เมทานอล สารพิษเงียบที่คร่าชีวิต
องค์ความรู้ด้านพิษวิทยาระบุว่า เมทานอลเป็นแอลกอฮอล์อุตสาหกรรมที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง มีความเป็นพิษสูงแต่ราคาถูกกว่าเอทานอล จึงถูกนำมาผสมในแอลกอฮอล์บริโภคเถื่อนเพื่อเพิ่มปริมาณและกำไร แต่เมื่อผู้บริโภคได้รับเมทานอลเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดอาการท้องเสียรุนแรง ตามด้วยภาวะร่างกายขาดน้ำ หมดสติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบหายใจล้มเหลว ในรายที่รุนแรงจะเกิดภาวะช็อก ไตวาย และเสียชีวิตในที่สุด ความน่ากลัวของเมทานอลคือไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า เนื่องจากไม่มีสี กลิ่น หรือรสชาติที่แตกต่าง
จากการรวบรวมข้อมูลโดยศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี พบว่าในช่วงระหว่างปี 2551-2562 มีผู้ได้รับพิษจากเมทานอลมากถึง 573 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าการแพร่กระจายของเหล้าเถื่อนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
อ้างอิง
ถอดบทเรียน ป้องกันหายนะซ้ำ
การเรียนรู้จากกรณีโศกนาฏกรรมครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผลักดันมาตรการเชิงรุกในการป้องกัน เฝ้าระวัง และกำจัดแหล่งผลิตและจำหน่ายเหล้าเถื่อนให้หมดไปจากสังคม หน่วยงานภาครัฐต้องเร่งกำหนดยุทธศาสตร์ขจัดจุดอ่อน เช่น การขาดการบูรณาการข้อมูลและความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน การบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่เข้มงวดและทั่วถึง รวมถึงความล่าช้าในการสื่อสารเตือนภัยให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง
สื่อมวลชนต้องทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง สร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผิดกฎหมายแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และร่วมสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ในการจับกุมและดำเนินคดีแก่เครือข่ายผู้กระทำผิด
สิ่งสำคัญคือผู้บริโภคเองก็ต้องตระหนักถึงอันตรายจากการดื่มเหล้าเถื่อน โดยเลือกซื้อสุราจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพมาตรฐาน รวมถึงสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายหลังการดื่ม หากมีอาการตาพร่ามัว คลื่นไส้อาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที อย่าชะล่าใจ เพราะอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้หากปล่อยไว้นานเกินไป
ทุกภาคส่วนของสังคมต้องตระหนักร่วมกันว่า ธุรกิจเหล้าเถื่อนเป็นอาชญากรรมขั้นร้ายแรง ที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และศีลธรรมอันดีของคนในชาติ ต้องช่วยกันสกัดกั้นและกำจัดให้หมดไป เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับทุกคน
ภาพ TNN / GettyImages
ข่าวแนะนำ