TNN ‘5 ดาวเคราะห์น้อย’ สุดอันตรายที่ NASA ชี้เสี่ยงพุ่งชนโลกมากที่สุด

TNN

TNN Exclusive

‘5 ดาวเคราะห์น้อย’ สุดอันตรายที่ NASA ชี้เสี่ยงพุ่งชนโลกมากที่สุด

‘5 ดาวเคราะห์น้อย’ สุดอันตรายที่ NASA ชี้เสี่ยงพุ่งชนโลกมากที่สุด

เป็นเวลากว่า 66 ล้านปี ที่อุกกาบาตขนาดมหึมา ชื่อ “ชิกซูลุบ” พุ่งชนโลก ผลกระทบในครั้งนั้น ได้ปล่อยพลังงานเทียบเท่าแรงระเบิด TNT ขนาด 72 ล้านล้านตัน กวาดล้างสิ่งมีชีวิตบนโลกในช่วงเวลานั้น ไปมากถึง 75% ซึ่งรวมถึงไดโนเสาร์ด้วย เรียกว่า เป็นการสูญพันธุ์ในยุคครีเทเชียส–พาลิโอจีน

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่อีกครั้ง ศูนย์ศึกษาวัตถุใกล้โลก หรือ CNEOS ของ NASA ได้ใช้งานระบบตรวจสอบการชน ชื่อว่า “Sentry” เพื่อวิเคราะห์วงโคจรของดาวเคราะห์น้อย ที่อาจเป็นอันตรายต่อโลกในอนาคตอย่างต่อเนื่อง และทาง CNEOS ได้จัดอันดับดาวเคราะห์น้อย 5 ดวง ที่มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกมากที่สุด 


1.ดาวเคราะห์น้อย ‘เบนนู’ 


ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง: 0.49 กิโลเมตร

มวลน้ำหนักรวม: 74 ล้านตัน 


ดาวเคราะห์น้อย ‘เบนนู’ ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนกันยายน 1999 มีชื่อทางการว่า “101955 Bennu (1999RQ36)” ถือเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีความเสี่ยงสูงมาก ที่จะพุ่งชนโลก แม้ว่าเปอร์เซนต์ความเสี่ยงนั้นจะยังคงอยู่ในระดับต่ำก็ตาม


นักวิทยาศาสตร์ของ NASA ประเมินว่า ดาวเคราะห์น้อยเบนนู มีโอกาส 0.037% หรือ 1 ใน 2,700 ที่จะพุ่งชนโลก ในวันที่ 24 กันยายน 2182 


เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยเบนนูให้มากที่สุด พวกเขาเชื่อว่า ดาวเคราะห์ดวงนี้ แตกออกมาจากดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ เมื่อประมาณ 2 พันล้าน - 700 ล้านปีก่อน 


ภารกิจยานอวกาศ OSIRIS-REx ได้เก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนูส่งมายังโลก เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2023 พร้อมทำการศึกษาวิจัยจากตัวอย่างหินดังกล่าว แล้วพบว่า เบนนูมีองค์ประกอบสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต เช่น กรดอะมิโนไกลซีน และแร่ธาตุที่มีน้ำ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า ดาวเคราะห์ต้นกำเนิดของเบนนู มีกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับน้ำอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนที่จะแตกแยกออกมา 


ทั้งนี้ ถ้าดาวเบนนูพุ่งชนโลก มันจะปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT ขนาด 1.4 พันล้านตัน ทำให้เกิดการทำลายล้างในระดับภูมิภาค แต่ความเสียหายจะยังไม่ส่งผลในระดับโลก และถ้าเบนนูตกลงในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น จะทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตนับล้าน  


2.29075 (1950 DA)


ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง: 1.3 กิโลเมตร

มวลน้ำหนักรวม: 78 ล้านตัน 


ดาวเคราะห์ที่มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกเป็นอันดับที่ 2 คือ ดาวเคราะห์ 29075 (1950 DA) ค้นพบครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 1950 


นักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่า 29075 (1950 DA) เป็นดาวเคราะห์ที่เป็นกองเศษหินรวมตัวกันอย่างหลวม ๆ มีธาตุเหล็ก-นิกเกิลสูง มีโอกาสประมาณ 1 ใน 34,500 หรือคิดเป็น 0.0029% ที่จะพุ่งชนโลกในวันที่ 16 มีนาคม 2880 


ถ้า 29075 (1950 DA) พุ่งชนโลก มันจะปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT ขนาด 75 พันล้านตัน ก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ในระดับโลก และอาจกวาดล้างมวลมนุษยชาติให้สูญสิ้นไป

 

3.2023 TL4


ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง: 0.33 กิโลเมตร

มวลน้ำหนักรวม: 47 ล้านตัน


2023 TL4 พบครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2023 เป็นดาวเคราะห์ดวงล่าสุดที่ถูกค้นพบ และจัดให้เป็นหนึ่งในวัตถุที่อาจเป็นอันตรายมากที่สุดต่อโลก 


นักดาราศาตร์คำนวณว่า 2023 TL4 มีโอกาส 0.00055% หรือคิดเป็น 1 ใน 181,000 ที่จะพุ่งชนโลกในวันที่ 10 ตุลาคม 2119 และจะปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT ขนาด 7.5 พันล้านตัน 


4.2007 FT3


ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง: 0.34 กิโลเมตร

มวลน้ำหนักรวม: 54 ล้านตัน


2007 FT3  ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2007 ได้รับการนิยามว่า “เป็นดาวเคราะห์น้อยที่สูญหาย” เนื่องจากนักดาราศาสตร์ไม่ได้พบเจอดาวดวงนี้อีกเลย ตั้งแต่ปีที่ถูกพบ 


นาซา คาดการณ์ว่า ดาวเคราะห์น้อยนี้ มีโอกาส 0.0000096% หรือ 1 ใน 10 ล้าน ที่จะพุ่งชนโลกในวันที่ 3 มีนาคม 2030 และยังมีโอกาส 0.0000087% หรือ 1 ใน 11.5 ล้าน ที่จะพุ่งชนโลกในวันที่ 5 ตุลาคม 2024 


ถ้าหากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ พุ่งชนโลกในปี 2024 หรือ 2030 จะปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT ขนาด 2.6 พันล้านตัน มากพอที่จะทำลายล้างได้ในระดับภูมิภาค แต่ไม่ก่อให้เกิดหายนะเป็นวงกว้างในระดับโลก 


5.1979 XB


ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง: 0.66 กิโลเมตร

มวลน้ำหนักรวม: 390 ล้านตัน


ดาวเคราะห์น้อยอีกดวงที่สูญหายไปจากสายตานักดาราศาสตร์ หลังถูกค้นพบแล้ว คือ ‘1979 XB’ ซึ่งไม่ถูกมองเห็นมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปีแล้ว ทำให้นักดาราศาสตร์มีข้อมูลเกี่ยวกับวงโคจรของดาวเคราะห์ดวงนี้น้อยมาก ๆ 


จากข้อมูลของ CNEOS ดาวเคราะห์น้อย 1979 XB พบครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1979 คาดว่า มีโอกาส 0.000055% หรือ 1.8 ล้าน ที่ดาวเคราะห์ดวงนี้ จะพุ่งชนโลกในวันที่ 14 ธันวาคม 2113 และจะปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT ขนาด 30 พันล้านตัน


---ความเสี่ยงยังอยู่ในระดับ 0---


แม้แนวคิดเรื่องดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกจะเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ดาวเคราะห์ทั้งหมดเหล่านี้ จัดให้เป็นอันตรายต่อโลกใน “ระดับ 0” หรือ “ระดับสีขาว” ตามมาตรวัดอันตรายจากการชนปะทะทอริโน 


มาตรวัดทอริโน จะกำหนดระดับความเสี่ยงของดาวเคราะห์น้อยที่จะพุ่งชนโลก และผลกระทบที่จะตามมา ตั้งแต่ระดับ 0-10 


ระดับ 0 หรือ ระดับสีขาว เป็นความเสี่ยงในระดับต่ำ ที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนโลก โดยระดับนี้ ไม่ได้ใช้เพียงกับแค่ดาวเคราะห์น้อยเท่านั้น แต่รวมถึงวัตถุขนาดเล็กจากอวกาศ ที่จะเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ และไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อโลก


ส่วนระดับ 8-10 เป็นระดับความเสี่ยงที่ดาวเคราะห์น้อยมีโอกาสพุ่งชนโลกสูง และสร้างความเสียหายตั้งแต่ระดับท้องถิ่น (ระดับ 8), ระดับภูมิภาค (ระดับ 9) และหายนะระดับโลก (ระดับ 10) ซึ่งเป็นระดับคุกคามอนาคตของมวลมนุษยชาติ 


อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ ไม่มีวัตถุดาราศาสตร์ใด ๆ ที่มีความเสี่ยงอยู่เกินระดับ 0 ตามตารางของ Sentry Risk แม้ดาวเคราะห์น้อยเบนนู และ 1950 DA ซึ่งมีโอกาสพุ่งชนโลกมากสุด ในบรรดา 5 ดาวเคราะห์น้อย ปัจจุบัน ทั้ง 2 ดวง ยังไม่ได้รับการจัดอันดับตามมาตรวัดทอริโน เพราะผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นนั้น อยู่ห่างไกลไปอีก 100 ปี นาซา จึงรับรองว่า ยังไม่มีภัยคุกคามสำคัญจากดาวเคราะห์น้อยที่ส่งผลต่อโลกในอีก 100 ปีข้างหน้า


แต่ถึงกระนั้น ยังคงมีวัตถุอันตรายบนอวกาศที่อาจจะพบในอนาคต โดยเฉพาะดาว หรือ วัตถุบางชิ้น ที่อาจหลบซ่อนอยู่ใต้แสงดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทาง CNEOS ยังคงต้องคอยติดตามสอดส่องบนฟากฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ใกล้โลกดวงใหม่ และอาจเป็นภัยคุกคามได้ในอนาคต 


แปล-เรียบเรียง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์ 

ข้อมูลอ้างอิง: 

https://www.livescience.com/space/asteroids/nasas-most-wanted-the-5-most-dangerous-asteroids-in-the-solar-system

https://www.express.co.uk/news/science/1834582/asteroids-strike-solar-system-earth-spt

ข่าวแนะนำ