กบฏ "ฮูตี" อาละวาดโจมตีเรือในทะเลแดง ทำให้โลกร้อนขึ้นได้อย่างไร
เรือบรรทุกสินค้า บรรทุกสินค้าอุปโภคบริโภคจากท่าเรือหนึ่ง ไปยังอีกท่าเรือหนึ่งในอีกฟากโลก เส้นทางหลักที่เรือบรรทุกสินค้าจะผ่าน คือ คลองสุเอซในทะเลแดง
เรือบรรทุกสินค้า หากเคยเห็นภาพกัน จะเต็มไปด้วยตู้สินค้า เรือลำหนึ่งบรรทุกได้หลายพันตู้ และเรือบรรทุกสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก บรรทุกได้มากกว่า 24,000 ตู้เลยทีเดียว
แต่ละปี มีเรือบรรทุกสินค้าเดินทางในมหาสมุทรของโลกเกือบ 6,000 ลำ มีมูลค่าสินค้าที่จัดส่งถึง 258 ล้านล้านบาท
เชื้อเพลิงที่เรือบรรทุกสินค้าเหล่านี้ใช้ ยังเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล นั่นหมายความว่า การขนส่งสินค้าเหล่านี้ก็สร้างก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมากด้วย
นี่แค่เรือบรรทุกสินค้า แต่หากนับรวมเรือประเภทอื่น ๆ ทั้งหมด ช่วงเวลาหนึ่ง จะมีเรืออยู่ในทะเลถึง 100,000 ลำเลยทีเดียว
อย่างที่บอกไปว่า เส้นทางเดินเรือหลักจะผ่านคลองสุเอซ เพราะช่วยย่นระยะทางจากเอเชียไปยังยุโรปและอเมริกา ได้อย่างมหาศาล
แต่เมื่อกบฎฮูตีในเยเมน เริ่มโจมตีเรือพาณิชย์บ่อยมากขึ้นในทะเลแดง เรือบรรทุกสินค้าและเรือพาณิชย์อื่น ๆ จึงเลี่ยงไปเส้นทางอื่น อ้อมทวีปแอฟริกาแทน
ยกตัวอย่าง จากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ของจีน ไปท่าเรือเมืองฮัมบูร์กของเยอรมนี เมื่อต้องเปลี่ยนไปเส้นทางอ้อมทวีปแอฟริกา รอยเตอร์รายงานว่า จะทำให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่ม 38%
เรื่องนี้ บริษัทที่จัดส่งสินค้าหรือซื้อสินค้า ติดตามร่องรอยคาร์บอน หรือคาร์บอน ฟุตพรินต์ ได้ว่าการจัดส่งสินค้านั้น ๆ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาแค่ไหน
รอยเตอร์เปิดเผยข้อมูลน่าตกใจจากการตรวจสอบข้อมูลเรือบรรทุกสินค้า 6,000 เที่ยวที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางจากการอาละวาดของกบฎฮูตี ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2023 - 31 มีนาคม 2024
ผลการตรวจสอบพบว่า เฉลี่ยแล้วตู้สินค้าหนึ่ง หากเดินทางเส้นทางเดิม คือผ่านคลองสุเอซและทะเลแดง จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา 1.07 ตัน แต่เมื่อต้องเปลี่ยนเส้นทาง ตู้สินค้าหนึ่งจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 1.35 ตัน หรือเพิ่มขึ้นมา 0.28 ตันต่อตู้สินค้า
นั่นหมายความว่า เรือบรรทุกสินค้าที่บรรทุกตู้สินค้าได้ 10,000 ตู้ จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มถึง 2,849 ตัน
ปริมาณนี้เยอะไหม ก็เทียบกับรถยนต์คันหนึ่ง จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อปี คันละ 4.6 ตัน
ข่าวแนะนำ