TNN ต่างชาติ vs. แรงงานไทย: ใครจะเป็นผู้ชนะในสมรภูมิตลาดแรงงาน?

TNN

TNN Exclusive

ต่างชาติ vs. แรงงานไทย: ใครจะเป็นผู้ชนะในสมรภูมิตลาดแรงงาน?

ต่างชาติ vs. แรงงานไทย: ใครจะเป็นผู้ชนะในสมรภูมิตลาดแรงงาน?

เปิดประตูสู่ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ: โอกาสทองหรือวิกฤตแย่งงาน? สำรวจผลกระทบต่อแรงงานไทย พร้อมแนวทางรับมือและพัฒนาทักษะเพื่อก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลง

"ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติหลั่งไหลเข้าไทย: โอกาสและความท้าทายสำหรับแรงงานไทยในยุคใหม่"


ในยุคที่เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันใกล้ชิดยิ่งขึ้น การเปิดประตูสู่ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญของหลายประเทศ รวมถึงไทย ผ่านนโยบายวีซ่าระยะยาว (LTR Visa) และวีซ่าสำหรับผู้มีทักษะสูง (Smart Visa) รัฐบาลหวังดึงดูดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากทั่วโลก เพื่อกระตุ้นการลงทุนและยกระดับขีดความสามารถของประเทศ แต่สิ่งที่ตามมาคือผลกระทบที่หลากหลายต่อแรงงานไทย ทั้งในแง่ของโอกาสและความท้าทาย


ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติในประเทศไทย

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ในปี 2567 มีชาวต่างชาติได้รับอนุมัติวีซ่าและใบอนุญาตทำงานในไทยแล้วกว่า 56,000 คน แบ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญภายใต้โครงการส่งเสริมการลงทุน 50,000 คน ผู้ได้รับ LTR Visa กว่า 4,000 คน และผู้ได้รับ Smart Visa รวมถึงกลุ่ม Startup 2,170 คน โดยส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น จีน และเยอรมนี พวกเขาทำงานในหลากหลายสาขา ตั้งแต่ไอที วิศวกรรม การแพทย์ ไปจนถึงการเงินและการศึกษา นำความรู้ ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์มาสู่ประเทศไทย


ประโยชน์ที่แรงงานไทยจะได้รับ

การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเปิดโอกาสให้แรงงานไทยได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ รับการถ่ายทอดความรู้ล้ำสมัย และยกระดับศักยภาพของตนเอง นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายระดับสากล เปิดประตูสู่ความร่วมมือทางธุรกิจ การเข้ามาของผู้เชี่ยวชาญต่างชาติยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงานในวงกว้าง พวกเขายังมีส่วนยกระดับมาตรฐานการทำงานและแนวปฏิบัติที่ดีในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาแรงงานไทยในระยะยาว


ความท้าทายและข้อกังวล

อย่างไรก็ตาม การเปิดรับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติก็นำมาซึ่งความท้าทายที่ไม่อาจมองข้าม 

ประการแรก คือ การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะตำแหน่งที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง แรงงานไทยบางส่วนอาจเสียเปรียบเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่มีประสบการณ์มากกว่า บางครั้งบริษัทอาจเลือกจ้างต่างชาติด้วยค่าตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งอาจนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางรายได้และข้อกังวลเรื่องการแย่งงานคนไทย ความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรมในการทำงานก็อาจสร้างอุปสรรคในการประสานงาน นอกจากนี้ การเข้ามาของผู้เชี่ยวชาญต่างชาติจำนวนมากอาจส่งผลต่อค่าครองชีพและราคาที่พักในบางพื้นที่ สร้างแรงกดดันต่อแรงงานไทยบางกลุ่ม


วีซ่า LTR และ Smart Visa: ดาบสองคมสำหรับแรงงานไทย?


ในการประเมินผลกระทบของนโยบาย LTR Visa และ Smart Visa จำเป็นต้องมองให้รอบด้าน ในแง่บวก มันมีโอกาสดึงดูดแรงงานไทยที่มีความสามารถสูงในต่างแดนให้กลับมาทำงานในประเทศ ก่อให้เกิด "สมองไหลกลับ" (Brain Gain) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง แต่ในทางกลับกัน ก็มีความเสี่ยงที่ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติจะเข้ามาแทนที่แรงงานไทยในบางตำแหน่ง เพราะฉะนั้น รัฐบาลและภาคเอกชนจึงต้องสร้างสมดุลระหว่างการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญต่างชาติและการปกป้องแรงงานไทย พร้อมกับการส่งเสริมการพัฒนาทักษะและศักยภาพของคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก


พัฒนาทักษะเพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลง

ในโลกที่การแข่งขันในตลาดแรงงานรุนแรงขึ้น แรงงานไทยจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะของตนอยู่เสมอ ทักษะสำคัญในยุคนี้ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ความรู้ทางเทคโนโลยี การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม การเรียนรู้ตลอดชีวิต การปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีและทิศทางอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงการสร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มมูลค่าให้กับตนเองท่ามกลางการแข่งขัน


ความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน


การเตรียมความพร้อมให้แรงงานไทยจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รัฐบาลควรมีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะและการศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบ ด้วยความร่วมมือกับภาคเอกชนในการออกแบบหลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด 


นอกจากนี้ ภาครัฐและเอกชนควรสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันระหว่างแรงงานไทยและต่างชาติ ผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ การสร้างเครือข่าย และการส่งเสริมความเข้าใจทางวัฒนธรรม ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีมาตรการดูแลและคุ้มครองสิทธิของแรงงานไทย ป้องกันการเอาเปรียบและการเลือกปฏิบัติ พร้อมทั้งผลักดันการสร้างงานที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่เป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับมาตรฐานการครองชีพของแรงงานไทย


---------------------------------------

การเปิดประเทศต้อนรับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ ไม่เพียงส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของแรงงานไทยแต่ละคน ผลกระทบเหล่านี้มีทั้งด้านบวกและด้านลบ แตกต่างกันไปตามสถานการณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การปรับตัวและการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแรงงานไทยในยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ การแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ด้วยตนเอง หรือการกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาเพื่อเพิ่มคุณวุฒิ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับแรงงานไทย


อย่างไรก็ตาม ภาระนี้ไม่ได้ตกอยู่เฉพาะแรงงานไทยเท่านั้น รัฐบาลและภาคเอกชนเองก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตและความก้าวหน้าของแรงงานไทยทุกคน ผ่านนโยบายการพัฒนาทักษะ การสร้างความร่วมมือกับต่างชาติ การคุ้มครองสิทธิแรงงาน และการสร้างงานคุณภาพในประเทศ เมื่อทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกัน เราจึงจะสามารถสร้างสมดุลระหว่างการเปิดประเทศสู่ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ และการสร้างโอกาสที่เป็นธรรมให้แก่แรงงานไทยได้ในที่สุด ท่ามกลางความท้าทายของยุคสมัยใหม่ การปรับตัว เรียนรู้ และร่วมมือกัน จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาประเทศไทยและแรงงานไทยให้ก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงในเวทีโลก



อ้างอิง 
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
อ้างอิงถึงนโยบาย LTR Visa และ Smart Visa ซึ่งเป็นข้อมูลสาธารณะที่สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ของ BOI

ข่าวแนะนำ