TNN ลำดับ "คดีป้าบัวผัน" กับบทพิสูจน์ความยุติธรรมและความท้าทายของกฎหมายเยาวชน

TNN

TNN Exclusive

ลำดับ "คดีป้าบัวผัน" กับบทพิสูจน์ความยุติธรรมและความท้าทายของกฎหมายเยาวชน

ลำดับ คดีป้าบัวผัน กับบทพิสูจน์ความยุติธรรมและความท้าทายของกฎหมายเยาวชน

ลำดับ "คดีป้าบัวผัน" กับบทพิสูจน์ความยุติธรรมและความท้าทายของกฏหมายเยาวชน

ลำดับ "คดีป้าบัวผัน" กับบทพิสูจน์ความยุติธรรมและความท้าทายของกฏหมายเยาวชน


ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา "คดีป้าบัวผัน" ที่ถูกพบเป็นศพถูกทิ้งสระน้ำในจังหวัดสระแก้ว กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่คนไทยกำลังจับตามอง หลังพบหลักฐานว่าเยาวชนอายุ 13-16 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ และหนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นลูกของตำรวจระดับรองสารวัตรสืบสวนในพื้นที่ 


ประเด็นที่มีการพูดถึงกันในสังคมออนไลน์ คือการแก้ไขให้กฎหมายเยาวชนมีบทลงโทษที่หนักแบบเดียวกับผู้ใหญ่ จนส่งผลให้  แฮชแท็ก #ป้าบัวผัน ติดเทรนด์ X เป็นอันดับ 1 อยู่หลายวัน  


ป้าบัวผัน คือใคร? 


น.ส.บัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี  ชาวจังหวัดสระแก้ว คนในพื้นที่จะเรียกกันว่า “ป้าบัวผัน” หรือ “ป้ากบ” 

ป้าบัวผัน เป็นคนสติไม่สมประกอบ เป็นคนเร่ร่อน มีสามีชื่อ “ลุงเปี๊ยก”


ถึงแม้ว่า “ป้าบัวผัน” จะเป็นคนสติไม่สมประกอบ เป็นคนเร่ร่อน แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต่างพร้อมใจยืนยันว่า ป้าบัวผัน เป็นคนดี 


วันนี้ ชื่อของ “ป้าบัวผัน” กลายเป็นที่สนใจของคนในสังคมอย่างมาก โดยมีการพูดถึงความยุติธรรมสำหรับคนเร่ร่อน และประเด็นการรับโทษของกฎหมายเยาวชน 


ทีมข่าว TNNOnline ขอไล่เรียงเหตุการณ์สำคัญในคดี และขอสรุปสถิติเยาวชนที่เคยก่อเหตุอาชญากรรม พบสาเหตุหลักมาจาก “ยาเสพติด”


สามี “ป้าบัวผัน” เข้ามอบตัว 


ภายหลังจากพบศพป้าบัวผัน ลุงเปี๊ยก หรือ นายปัญญา คงแสนคำ ชายวัย 54 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายป้าบัวผัน จนเสียชีวิต โดยเอาเก้าอี้ฟาดศีรษะถึงแก่ความตายแล้วเอาศพไปทิ้งบ่อน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งดำเนินคดีไปยังศาลจังหวัดสระแก้ว และนำตัวไปฝากขังตามกฎหมาย 


ซึ่งต่อมา มีการตั้งข้อสังเกตุ คำให้การของลุงเปี๊ยกมีพิรุธหลายจุด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา พร้อมดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม


กล้องวงจรปิดมัด 5 เยาวชน 


ต่อมา นักข่าวช่อง 8 พบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหลายจุด โดยปรากฏภาพกลุ่มวัยรุ่น 5 คน กำลังรุมทำร้ายป้าบัวผัน จึงนำหลักฐานไปมอบให้ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ สืบหาคนร้ายตัวจริง โดยมีการยืนยันว่า 1 ใน 5 เยาวชนที่ก่อเหตุเป็นลูกของตำรวจระดับรองสารวัตรสืบสวน


เด้ง ตร.พ่อผู้ต้องหา 


15 ม.ค. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พ่อของหนึ่งในเด็กที่ก่อเหตุ เป็นรองสารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ  ขณะนี้ได้มีคำสั่งย้าย มาประจำอยู่ ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ไว้ก่อน จนกว่าคดีสอบสวนเสร็จสิ้น พร้อมทั้งยืนยัน จะไม่มีการช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างแน่นอน ผิดก็ว่าไปตามผิด


คืนอิสรภาพ ปล่อยตัวสามี 'ป้าบัวผัน'


ลุงเปี๊ยก อายุ 54 ปี สามีของนางสาวบัวผัน ผู้เสียชีวิต ได้รับอิสรภาพ หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ นำหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของ ลุงเปี๊ยก ส่งให้ศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้มีคำสั่ง หมายปล่อยถึงเรือนจำจังหวัดสระแก้ว และลุงเปี๊ยก ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 15 ม.ค.67 


ทำไม “ลุงเปี๊ยก” ถึงรับสารภาพ 


"ผมเสียใจที่แฟนผมเสียชีวิต 

แล้วชาวบ้านเขาหาว่าผมไปฆ่าเมียตัวเอง 

ผมก็เลย ผมก็เลยตัดปัญหา"


ลุงเปี๊ยก ยืนยันกับ “บิ๊กโจ๊ก” ว่า ไม่มีใครบังคับหรือจ้างวานให้รับสารภาพ แต่ที่รับสารภาพเพราะอยากตัดปัญหา นอกจากนี้ “บิ๊กโจ๊ก” ยังเชื่อว่า ลุงเปี๊ยกติดสุราเรื้อรัง  สมองจึงจินตนาการไปเรื่อย


คุมตัว 5 เยาวชน สอบ ปมฆ่า “ป้าบัวผัน”


เด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 13 - 15 ปี รวม 5 คน ที่ลงมือก่อเหตุฆาตกรรม ถูกคุมตัวไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว เพื่อสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ที่บริเวณชั้น 2 โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพ


ขณะสอบสวน ซึ่งระหว่างที่คุมตัวขึ้นไปผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุที่ลงมือทำร้าย แต่ทุกคนไม่ตอบคำถาม และมีสีหน้านิ่งเฉย


ส่องสถิติ คดีเด็กและเยาวชน จากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน


ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 จำนวนคดีอาญาที่มีเด็กและเยาวชนเป็นผู้กระทำความผิดเข้าสู่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทั้งสิ้น 12,195 คดีโดยจากคดีทั้งหมดเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดเป็นเพศชาย 11,032 คดีคิดเป็นร้อยละ 90.49 เพศหญิง  60 คดี คิดเป็นร้อยละ 9.51


นอกจากนี้ยังพบว่าคดีส่วนใหญ่เป็นคดีที่ผู้กระทำความผิดที่มิได้อยู่กับบิดามารดาหรือบิดามารดาแยกกันอยู่มากกว่าผู้กระทำความผิดที่อยู่ร่วมกับครอบครัว คือ คดีที่ผู้กระทำความผิดมิได้อยู่กับบิดามารดาหรือบิดามารดาแยกกันจำนวน 9,239 คดีคิดเป็นร้อยละ 70.75 ของคดีทั้งหมดส่วนคดีที่ผู้กระทำความผิดที่อยู่ร่วมกับครอบครัวจำนวน 3,820 คดีคิดเป็นร้อยละ 29.25 


คดีส่วนใหญ่เป็นคดีที่มีฐานความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษมากที่สุดรองลงมาเป็นคดีที่มีความผิดอื่นๆเช่นพอรอบอจราจรพอรอบอการพนันนอกจากนั้นเป็นคดีที่มีฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เป็นคดีที่มีฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย เป็นคดีที่มีฐานความผิดเกี่ยวกับเพศและเป็นคดีที่มีความผิดฐานความมั่นคงความสงบสุขเสรีภาพและการปกครอง 


จากสถิติข้างต้นพบว่าฐานความผิดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในสัดส่วนที่มากที่สุดนั่นคือการกระทำความผิดในฐานยาเสพติดให้โทษเป็นร้อยละ 40.7 ของคดีทั้งหมดถึงแม้ว่าคดีอาญาโดยรวมลดลงแต่ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของยาเสพติดโดยพื้นฐานจริงๆแล้วการกระทำความผิดอื่นๆมักเกิดจากยาเสพติดเป็นหลัก



ถึงเวลา…ต้องทบทวนกฎหมาย


ในมุมมองนักกฎหมายมีการแสดงความเห็นอย่างหลากหลาย ว่า ถึงเวลาที่จะต้องทบทวน เพื่อแก้ไขกฎหมาย ไม่ให้พิจารณาแค่อายุ แต่ให้พิจารณาจากพฤติการณ์ของการก่อเหตุ เพราะย้อนไปดูคดีอาชญากรรมที่ก่อเหตุโดยอาชญากรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น คดีหลานสาววัย 14 ปี ร่วมแฟนหนุ่มฆ่าปาดคอยาย, คดีเด็กหญิงอายุ 13 ปี และ 15 ปี ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรมเพื่อนโดยจับกดน้ำจนเสียชีวิต, คดีเยาวชนอายุ 16 ปีขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดงชนคนเสียชีวิต เป็นต้น


สำหรับแนวทางในการแก้กฎหมายเพิ่มโทษเด็กและเยาวชนในไทย เป็นเพียงแนวคิดที่เริ่มมีการส่งเสียงสะท้อนออกมา ถึงความใจดีของกฎหมายที่อาจทำให้เด็กและเยาวชนที่มีแนวโน้มก่อเหตุรุนแรงในอนาคตอาจก่อเหตุขึ้นได้ เพราะบทเรียนจากหลายคดีที่ผ่านมาจนถึงคดีล่าสุด ผู้ก่อเหตุต่างได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย 


แต่ในทางปฏิบัตินั้น การแก้กฎหมายคงไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างระมัดระวังเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนรวมทั้งต้องพิจารณษเรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับเด็กและเยาวชนด้วย


หลังจากนี้คงต้องจับตา “คดีป้าบัวผัน” จะมีบทสรุปอย่างไร เยาวชน จะได้รับโทษแบบไหน? และป้าบัวผัน จะได้รับความยุติธรรม หรือไม่




ภาพ : TNNOnline 

ข่าวแนะนำ