เปิดวิธีกินกาแฟดำลดความอ้วน ควรดื่มตอนไหนดี ?
เปิดวิธี ‘กินกาแฟดำ’ เพื่อลดความอ้วน-ลดน้ำหนัก ควรดื่มตอนไหน-ปริมาณเท่าใด ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
กาแฟ ถือเป็น 1 ในเครื่องดื่มยอดนิยมของใครหลายคนที่นิยมดื่มกันในช่วงเช้า เพื่อกระตุ้นร่างกายให้สดชื่นพร้อมรับการทำงานในวันใหม่ เนื่องจากกาแฟมี ‘คาเฟอีน’ ที่ช่วยให้เกิดการหลั่งของDopamine (โดปามีน) ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นระบบประสาท ส่งผลให้ร่างกายกระฉับกระเฉง ลดความง่วงและความเหนื่อยล้า แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากกาแฟจะช่วยให้ลดความง่วงแล้า กาแฟยังสามารถนำมาใช้เพื่อการลดน้ำหนัก เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้อีกด้วย
กินกาแฟดำ ช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่?
นักวิจัยของ Harvard TH Chan School of Public Health ค้นพบว่า การดื่มกาแฟ 4 ถ้วยต่อวันสามารถลดไขมันในร่างกายได้ประมาณ 4% จากการทดลองในกลุ่มของผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินเป็นเวลา 24 สัปดาห์
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบว่าการดื่มกาแฟดำก่อนการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มฮอร์โมนอะดรีนาลีน เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้นขณะออกกำลังกาย โดยจากการวิจัยของ The National Center for Biotechnology Information (NCBI) ระบุว่า คาเฟอีน ที่พบในกาแฟ ถือเป็นกรด ergogenic ที่มีประสิทธิภาพ หรือ เป็นสารเพิ่มประสิทธิภาพความทนทานในการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรง หรือการฝึกคาร์ดิโอ ซึ่งร่างกายจะสามารถดึงไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงานเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากคาเฟอีนจะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน นักวิจัยยังพบอีกว่า คาเฟอีนสามารถลดความอยากอาหารลงได้จากการทดลองพบว่า ผู้เข้าทดลองที่ได้รับคาเฟอีนในช่วง 30 นาที ถึง 4 ชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร จะอิ่มท้องเร็วขึ้น และกินอาหารน้อยลงโดยอัตโนมัติ
กาแฟดำจึงเป็นตัวช่วยที่ดีต่อการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะการออกกำลังกายรูปแบบคาร์ดิโอ เช่น แอโรบิก กระโดดเชือก ว่ายน้ำ เป็นต้น ที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจไปแตะที่ 60 - 70% ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจต่อนาที (MPHR) ซึ่งเป็นอัตราที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ดีที่สุด เพราะร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันส่วนเกินมาใช้
กินกาแฟช่วยลดความอ้วนความ ควรดื่มตอนไหน?
การดื่มกาแฟเพื่อลดความอ้วน สามารถกินได้หลังจากมื้อเที่ยงประมาณ 30-60 นาที โดยคาเฟอีนในกาแฟจะเข้าไปช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายในช่วงเวลานี้ได้ดี นอกจากนี้การดื่มกาแฟในช่วงเวลา 09.30 -11.30 น.โดยเฉพาะเวลาประมาณ 10.30 น. เป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดในร่างกายยังไม่ค่อยทำงาน คาเฟอีนจะกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวแต่ไม่เครียด
ดื่มกาแฟเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายควรดื่มตอนไหน
การวิจัยส่วนใหญ่แนะนำว่าเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายประมาณ 45–60 นาที เพื่อให้คาเฟอีนดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด คาเฟอีนมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการออกกำลังกายเมื่อบริโภคในปริมาณ 2-6 มก. ต่อกิโลกรัม ของน้ำหนักตัว
อย่างไรก็ตามยังมีข้อควรระวัง หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟชนิดพิเศษที่เติมน้ำเชื่อมและสารปรุงแต่งรส ซึ่งมักจะมีแคลอรีและน้ำตาลสูง เครื่องดื่มเหล่านี้ไม่เพียงขัดขวางเป้าหมายการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก แต่ยังย่อยยากอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงต่างๆ ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนไม่เกิน 400 มก. ต่อวัน หรือกาแฟประมาณ 3-4 ถ้วย (710–945 มล.)
เคล็ดลับกินกาแฟดำให้ดีต่อสุขภาพ
- หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟดำตอนท้องว่าง เพราะมีกรดที่อาจกัดกระเพาะได้
- ไม่ควรดื่มกาแฟดำเกิน 4 แก้วต่อวัน หรือรับคาเฟอีนได้ไม่เกิน 300 - 400 มิลลิกรัมต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกาย เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินจำเป็น
- หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลังเวลา 14.00 น. เพราะอาจทำให้นอนหลับยาก ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าต้องจำกัดการกินกาแฟหรือต้องงดดื่มกาแฟหรือไม่
ข้อมูลจาก : Harvard TH Chan School of Public Health , The National Center for Biotechnology Information , nescafe.com
ภาพจาก : AFP