

สรุปข่าว
นนี้ ( 16 มิ.ย. 66 )ผู้ช่วยศาสตราจารย์กอบศักดิ์ วันธงไชย คณบดีคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความคิดเห็นถึงไฟป่าครั้งใหญ่ในแคนาดา ซึ่งกำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและยังไม่สามารถควบคุมได้ ว่า การเกิดขึ้นของไฟป่า ถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง โดยสาเหตุหลัก ๆ นั้นประกอบด้วย 2 สาเหตุ ได้แก่ ไฟป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และไฟป่าที่เกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์
โดยสาเหตุของไฟป่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้น เกิดขึ้นได้แก่ ฟ้าผ่าโดยตรงเข้าไปที่ต้นไม้ที่แห้ง และทำให้เกิดไฟไหม้ แต่ฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและในต่างประเทศนั้นมีความแตกต่างกัน โดยฟ้าผ่าในไทยนั้นจะมีลักษณะที่เรียกว่า ฟ้าผ่าเปียก คือเมื่อเกิดฟ้าผ่าไปยังต้นไม้หรือบริเวณรอบต้นไม้ หลังจากเกิดฟ้าผ่าแล้วจะมีปรากฏการณ์ของฝนตกตามมาในทันที แต่สำหรับในต่างประเทศ เช่น ประเทศแถบอเมริกา , แอฟริกา , ออสเตรเลีย , สวีเดน และนอร์เวย์ ฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านั้นเรียกว่า ฟ้าผ่าแห้ง โดยมีลักษณะของการฟ้าผ่าในหน้าแล้งที่จะไม่มีฝนตกตามลงมา นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฟ้าผ่าบ่อยขึ้นจนเกิดไฟป่าได้ถี่ขึ้นในอนาคต
ส่วนผลกระทบหลังจากการเกิดไฟป่านั้น ปัจจุบันพบว่าไฟป่าในแคนาดากินพื้นที่ไปแล้วกว่า 30 ล้านไร่ ซึ่งหากเทียบกับพื้นที่ป่าในประเทศไทย ก็จะเท่ากับพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จำนวน 30 ลูก
สำหรับพื้นที่ป่าในประเทศแถบอเมริกาจะมีลักษณะป่าสนซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยที่เป็นป่าเขตร้อน ทำให้ไฟที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงต่างกัน โดยป่าในเขตร้อนหลังเกิดไฟป่าเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ป่าก็จะกลับฟื้นคืนเพราะไฟป่าไม่เผาต้นไม้โดยตรง แต่จะเป็นไฟผิวดินที่เผาเชื้อเพลิงที่อยู่ด้านล่างเพียงเท่านั้น แต่ไฟที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าสน พันธุ์ไม้ในพื้นที่มักเป็นพันธุ์ไม้ที่มียางในลำต้น
ดังนั้นเมื่อเกิดไฟไหม้ ไฟจะไหม้ไปที่ต้นไม้โดยตรง ซึ่งถือว่ามีความอันตรายและมีความรุนแรงสูง สร้างความเสียหายให้กับป่าในบริเวณนั้นทั้งหมด แต่หลังจากเกิดไฟไหม้แล้ว พื้นที่เหล่านั้นก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้จากเมล็ดพันธุ์ของพืชที่อยู่ใต้ผิวดิน ที่จะกลับขึ้นมางอกใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่การฟื้นฟูต้องใช้เวลานานเพราะประเทศแถบอเมริกามีฤดูหนาวที่ยาวนานทำให้ต้นไม้ใช้เวลานานในการเจริญเติบโต
ภาพจาก : AFP
ที่มาข้อมูล : -