
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับควันดำจากรถยนต์ดีเซล ภัยเงียบที่ก่อมะเร็ง
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเมื่อปี 2012 ว่าไอเสียจากรถยนต์ดีเซลเป็นสารก่อมะเร็งในกลุ่มที่ 1 ซึ่งหมายถึงมีหลักฐานชัดเจนว่าส่งผลให้เกิดมะเร็งปอด การตัดสินใจนี้อ้างอิงจากผลการศึกษาที่ยาวนาน รวมถึงการทดลองของ IARC ในปี 1998 ที่พบว่าหนูทดลองที่สัมผัสไอเสียดีเซลโดยตรงเป็นเวลานานล้วนเกิดเนื้องอกที่ปอด แต่เมื่อไอเสียถูกกรองก่อนปล่อยออกมา หนูทดลองกลับไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แสดงให้เห็นว่าไอเสียดีเซลที่ไม่ได้ผ่านการกรองมีสารพิษอันตรายสูง
นอกจากนี้ งานวิจัยทางระบาดวิทยายังพบว่า คนงานที่ทำงานใกล้กับไอเสียจากรถไฟและรถบรรทุกมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอดและกระเพาะปัสสาวะ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่สัมผัสสารพิษในอากาศ ยิ่งนานเท่าไร โอกาสเป็นมะเร็งก็ยิ่งสูงขึ้น อีกทั้งการศึกษาในรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ไอเสียจากรถยนต์ดีเซลก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งถึง 90% โดยส่วนใหญ่มาจากฝุ่น PM 2.5 และสารเคมีอันตรายอื่นๆ เช่น Aldehydes และ Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAC)

สรุปข่าว
ด้วยเหตุนี้ ประชาชนที่ใช้ชีวิตในเมือง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการจราจรติดขัด อาคารสูงขนาบสองข้าง และอากาศถ่ายเทไม่ดี เช่น ใต้สถานีรถไฟลอยฟ้า หรือถนนที่มีรถเมล์และรถบรรทุกจำนวนมาก ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ การสูดดมไอเสียดีเซลเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงโดยไม่รู้ตัว
การป้องกันที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีมลพิษสูง หลีกเลี่ยงการสูดดมไอเสียโดยตรง และสวมหน้ากากกันฝุ่น PM 2.5 ประเภท N95 เมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง การลดการใช้รถยนต์ดีเซลและสนับสนุนระบบขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานสะอาดจะช่วยลดมลพิษและปกป้องสุขภาพของทุกคนในระยะยาว
ที่มาข้อมูล : https://web.facebook.com/share/18J653yFvN/
ที่มารูปภาพ : Reuters