ข้อตกลงปารีสกำลังจะตาย ทำโลก “ตกอยู่ในอันตราย”

การศึกษาสองชิ้นที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ในวารสาร Nature Climate Change สรุปว่าโลกอาจจะเกินเป้าหมายของข้อตกลงปารีสที่จำกัดอุณหภูมิการอุ่นขึ้นของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส

การศึกษาทั้งสองชิ้นเป็นหลักฐานล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าโลกไม่สามารถจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้สำเร็จ และมาเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากคำเตือนที่ชัดเจนจากนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศชื่อดัง เจมส์ ฮานเซน ซึ่งกล่าวว่าโลกกำลังเดินหน้าไปเกิน 2 องศาภายในสองทศวรรษข้างหน้า

แม้ว่านักวิทยาศาสตร์หลายคนกล่าวว่าอุณหภูมิระดับนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้หากลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็วและทันที แต่โอกาสในการทำเช่นนั้นดูเหมือนจะเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศยังคงสะดุดหยุดลง หนึ่งในมาตรการแรก  ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คือการถอนตัวจากข้อตกลงปารีส และตอนนี้หลายประเทศ เช่น อาร์เจนตินาและอินโดนีเซีย กำลังพิจารณาถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว

ข้อตกลงปารีสกำลังจะตาย ทำโลก “ตกอยู่ในอันตราย”

สรุปข่าว

"การศึกษาชี้อุณหภูมิทั่วโลกอาจเกินเป้าหมายของข้อตกลงปารีส" แม้หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ จะประสบกับอากาศหนาวเย็น แต่สำหรับโลกใบนี้ อุณหภูมิที่ร้อนจัดกลับทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับอนาคต

ข้อตกลงปารีสมีความสำคัญทางสัญลักษณ์อย่างยิ่ง ในปี 2015 เกือบทุกประเทศในโลกได้ตกลงที่จะจำกัดการอุ่นของโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่มนุษย์จะเริ่มเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลในปริมาณมาก โดยมีเป้าหมายที่จะจำกัดการอุ่นให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ความร้อนที่รุนแรงขึ้น อุทกภัย ภัยแล้ง และไฟป่าจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและยากที่มนุษย์และระบบนิเวศจะปรับตัวได้ ที่ 2 องศาเซลเซียส ชีวิตของผู้คนหลายล้านจะตกอยู่ในความเสี่ยง และอาจเกิดผลกระทบร้ายแรงมากขึ้น เช่น การละลายของแผ่นน้ำแข็งและการตายของปะการังทั่วโลก

ตั้งแต่ปี 2015 อุณหภูมิทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้น ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ตามข้อตกลงปารีส เป้าหมายเหล่านี้จะอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยในช่วงประมาณ 20 ปี แทนที่จะเป็นเพียงเดือนหรือปีเดียว ซึ่งหมายความว่าการฝ่าฝืนข้อตกลงจะสามารถยืนยันได้ในภายหลังเท่านั้น หลังจากที่มันสายเกินไปแล้ว

ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการศึกษาทั้งสองชิ้นนี้จึงพยายามหาคำตอบว่าโลกกำลังอยู่ในช่วงการอุ่นขึ้นที่ 1.5 องศาเซลเซียสแล้วหรือยัง ผลการศึกษาของอเล็กซ์ แคนนอน นักวิทยาศาสตร์จาก Environment and Climate Change Canada พบว่าโลกมีโอกาส 60% ถึง 80% ที่จะข้ามเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว เนื่องจากมี 12 เดือนติดต่อกันที่อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส

หากโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างน้อย 18 เดือนติดต่อกัน ก็คง "เกือบจะแน่นอนว่าข้อตกลงปารีสถูกฝ่าฝืน 

รายงานยังระบุอีกว่า งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่นำโดย เอมานูเอล เบวัคควา นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศจาก Helmholtz Centre ในเยอรมนี ใช้ข้อมูลทางภูมิอากาศจริงและการจำลองทางภูมิอากาศ พบว่า ปีแรกที่เกินเกณฑ์อุณหภูมิสูงสุดก็เกิดขึ้นในช่วง 20 ปีแรกที่ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิไปถึงเกณฑ์เดียวกัน หากแนวโน้มเหล่านี้ยังคงต่อเนื่อง ก็แทบจะมั่นใจได้ว่า ปี 2024 จะอยู่ในช่วง 20 ปีแรกที่ร้อนขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียส

ทั้งสองการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็วและเข้มแข็งยังสามารถลดโอกาสที่โลกจะฝ่าฝืนข้อตกลงปารีสในปีต่อๆ ไป "ในทางปฏิบัติแล้ว การฝ่าฝืนเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียสเป็นเรื่องที่เกือบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ริชาร์ด อัลเลน นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศจากมหาวิทยาลัยเรดดิ้งกล่าว "เราต้องเพิ่มความพยายามเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิน 2 องศาเซลเซียสอย่างรวดเร็วและมหาศาล ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก"

อย่างไรก็ตาม เจมส์ ฮานเซน นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศที่เคยเตือนโลกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งแรก กล่าวว่าเมื่อปีที่แล้วว่าเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียส "ตายแล้ว"

เดือนนี้เขาได้ร่วมเขียนงานวิจัยที่สรุปว่าการที่โลกร้อนขึ้นนั้นกำลังเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเดิม เนื่องจากกฎระเบียบการลดมลพิษจากการเดินเรือ ซึ่งในขณะที่มลพิษนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ มันยังมีผลในการสะท้อนแสงแดดออกจากโลกอีกด้วย

เขากล่าวว่า การอุ่นขึ้นของโลกอาจเกิน 2 องศาเซลเซียสในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า ซึ่งจะมีผลกระทบร้ายแรง รวมถึงการละลายของแผ่นน้ำแข็งและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล

การศึกษาล่าสุดนี้เป็นข่าวร้ายที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ตามคำกล่าวของดาเนียลา ชมิดต์ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โลกจากมหาวิทยาลัยบริสตอล แต่เธอเตือนว่าไม่ควรจดจ่ออยู่กับ 1.5 องศาเซลเซียส เพราะมัน "มีความเสี่ยงจริง  ที่จะทำให้การกระทำลดลง ทำให้เราทุกคนหมดกำลังใจหากมันเกินขึ้นมา

การขาดความมุ่งมั่นจะทำให้โลกยังคงดำเนินไปตามเส้นทางการอุ่นขึ้นราว 3 องศาเซลเซียส เธอกล่าว "การอุ่นขึ้นของอุณหภูมิเช่นนี้จะมีผลกระทบที่มหาศาล และบางส่วนอาจเป็นผลกระทบที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ต่อธรรมชาติและผู้คน"

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : ENVATO