
โรคซึมเศร้าชนิดเรื้อรังหรือ Dysthymia (Persistent Depressive Disorder - PDD) เป็นภาวะซึมเศร้าที่ไม่รุนแรงเท่าโรคซึมเศร้า (Major Depressive Disorder :MDD) แต่มีลักษณะเรื้อรังและต่อเนื่องเป็นเวลานาน หลายคนอาจใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ภายในกลับรู้สึกเศร้าหมอง หมดแรงบันดาลใจ และไม่สามารถสัมผัสกับความสุขได้อย่างแท้จริง วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ให้มากขึ้น
Dysthymia คืออะไร?
Dysthymia เป็นภาวะซึมเศร้าแบบเรื้อรังที่มีอาการต่อเนื่องยาวนานกว่า 2 ปีในผู้ใหญ่ และ 1 ปีในวัยรุ่น แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรงจนทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือน MDD แต่จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงานในระยะยาว
**อาการของ Dysthymia ต่างจากโรคซึมเศร้าแบบทั่วไปอย่างไร?
แม้ว่า Dysthymia จะมีอาการคล้าย MDD เช่น รู้สึกเศร้า สิ้นหวัง อ่อนล้า นอนไม่หลับ หรือเบื่ออาหาร แต่จะแตกต่างกันตรงที่อาการของ Dysthymia มักเป็นเรื้อรังและคงที่ ขณะที่ MDD จะมีช่วงที่อาการรุนแรงเป็นระลอก
Dysthymia พบได้ในประชากรประมาณ 3-6% ทั่วโลก และ ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชาย 2 เท่า เนื่องจากฮอร์โมนและปัจจัยทางสังคม มีการศึกษาพบว่า เกือบ 75% ของผู้ที่มี Dysthymia จะพัฒนาไปเป็น MDD ในอนาคต

สรุปข่าว
** ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด Dysthymia
- พันธุกรรม มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคซึมเศร้า
- ความเครียดเรื้อรัง เช่น ปัญหาครอบครัว การเงิน หรือความสัมพันธ์
- ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง โดยเฉพาะเซโรโทนินและโดพามีน
- ภาวะสูญเสียในวัยเด็ก เช่น การถูกทอดทิ้ง หรือประสบเหตุการณ์รุนแรง
**ผลเสียของ Dysthymia ตอชีวิตประจำวัน**
- รู้สึกเหมือนชีวิตขาดสีสันและไม่มีแรงบันดาลใจ
- ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
- ความสัมพันธ์กับผู้อื่นตึงเครียด เพราะผู้ป่วยมักมองโลกในแง่ลบ
- อาจพัฒนาไปสู่ MDD หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
**วิธีวินิจฉัย Dysthymia**
DSM-5 กำหนดว่า ผู้ป่วยต้องมีอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี และมีอาการร่วมอย่างน้อย 2 ข้อจาก 6 ข้อนี้:
- เบื่ออาหารหรือกินมากเกินไป
- นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป
- รู้สึกอ่อนเพลีย ขาดพลังงาน
- รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า
- ขาดสมาธิและตัดสินใจยาก
- รู้สึกสิ้นหวัง
**การรักษา Dysthymia ทำได้อย่างไร?
การรักษา Dysthymia มักใช้ การบำบัดร่วมกับยา
- จิตบำบัด (Psychotherapy) เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) สามารถช่วยปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม
- ยาแก้ซึมเศร้า (Antidepressants) โดยมักใช้ SSRIs หรือ SNRIs เช่น Fluoxetine, Sertraline
**คนรอบข้างสามารถช่วยเหลือผู้ป่วย Dysthymia อย่างไร?
- เข้าใจว่าผู้ป่วยไม่ได้ "ขี้เกียจ" หรือ "อ่อนแอ" แต่เป็นภาวะที่ควบคุมไม่ได้
- ชวนทำกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มระดับโดพามีน เช่น ออกกำลังกาย ฟังเพลง หรือทำงานศิลปะ
- กระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ไม่กดดันหรือบังคับให้ "หายเศร้า"
ที่มารูปภาพ : Envato

null null
(chompoo_sri)