
นพ.เจษฎา ทองเถาว์ แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ จิตแพทย์ประจำ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ได้เผยแพร่บทความบนเพจเฟซบุ๊ก คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา เรื่อง “Valentine’s Syndrome: ทำไมคนโสดรู้สึกแย่ในวันวาเลนไทน์? ระบุว่า

สรุปข่าว
วันวาเลนไทน์เป็นเทศกาลแห่งความรักที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ของขวัญ และโพสต์หวานๆบนโซเชียลมีเดีย แต่สำหรับหลายคนโดยเฉพาะ “คนโสด” วันนี้อาจเป็นวันที่รู้สึกโดดเดี่ยวและแย่ที่สุดวันหนึ่งของปี ทำไมวันแห่งความรักถึงส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนโสดได้มากขนาดนี้? ลองมาหาคำตอบกันครับ
1. การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น: โซเชียลมีเดียเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้คนโสดรู้สึกแย่ โดยเฉพาะเมื่อเห็นรูปคู่รักโพสต์โมเมนต์หวานๆ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบทางสังคม (Social Comparison) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่สมองมักจะเปรียบเทียบสถานการณ์ของตัวเองกับผู้อื่นโดยอัตโนมัติ งานวิจัยพบว่าการเลื่อนฟีดในวันวาเลนไทน์สามารถเพิ่มระดับความรู้สึกเหงาและภาวะซึมเศร้าในคนโสดได้ถึง 30%
2. ความกดดันทางวัฒนธรรม : วันวาเลนไทน์มักถูกนำเสนอในรูปแบบของวันแห่งความรักโรแมนติกมากกว่าความรักในรูปแบบอื่น (เช่น ความรักของครอบครัวหรือเพื่อนฝูง) ทำให้เกิดความกดดันทางวัฒนธรรมว่าการมีคู่คือมาตรฐานของความสุขการศึกษาในสหรัฐฯพบว่า 65% ของคนโสดที่รู้สึกแย่ในวันวาเลนไทน์ระบุว่าสาเหตุหลักคือ *แรงกดดันจากสังคมที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าควรมีคู่*
3. การกระตุ้นบาดแผลทางใจ (Emotional Triggers) : สำหรับหลายคนวันวาเลนไทน์อาจไปกระตุ้นบาดแผลทางใจ (เช่น การเลิกรา ความทรงจำเก่า หรือการถูกปฏิเสธ) ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าและคิดถึงอดีตมากกว่าปกติ จากผลสำรวจพบว่า 40% ของคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนมีแนวโน้มจะรู้สึกเศร้าในวันวาเลนไทน์มากกว่าวันปกติ
4. การรู้สึกถูกทิ้งไว้ข้างหลัง: คนโสดจำนวนมากประสบกับภาวะFOMO (Fear of Missing Out) หรือความรู้สึกว่ากำลังพลาดอะไรบางอย่างในชีวิต โดยเฉพาะเมื่อเห็นเพื่อนๆมีคู่และวางแผนดินเนอร์สุดโรแมนติก การศึกษสพบว่าคนโสดที่รู้สึกว่าตัวเองถูกทิ้งไว้ข้างหลังในวันวาเลนไทน์มีระดับความเครียดเพิ่มขึ้นถึง 25%
แล้วเราจะรับมือกับ Valentine’s Syndrome ได้อย่างไร?
-เปลี่ยนมุมมองต่อวันวาเลนไทน์ : วันวาเลนไทน์ไม่ได้มีไว้สำหรับคู่รักเท่านั้น แต่เป็นวันแห่งความรักในทุกรูปแบบ เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่ตัวเอง
- ลดการใช้โซเชียลมีเดียชั่วคราว : หากรู้ว่าการเห็นโพสต์คู่รักจะทำให้รู้สึกแย่ ลองหยุดเลื่อนฟีดสักวัน
- หาอะไรที่ทำให้ตัวเองมีความสุข เช่น การดูหนัง ออกกำลังกาย หรือไปเที่ยวกับเพื่อน
-โฟกัสที่การพัฒนาตัวเอง : ใช้วันวาเลนไทน์เป็นโอกาสในการรักตัวเองมากขึ้น