เตือน!! ฝุ่นจิ๋ว อันตรายต่อสมอง

ผศ.พิเศษ นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นขนาดเล็กที่มีเส้น   ผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานมากๆ จะทำให้มองเห็นเป็นลักษณะคล้ายกับหมอกจาง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ ในประชาชนทั่วไป เมื่อหายใจเอาฝุ่นจิ๋วเข้าไป จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ มีอาการไอ เสมหะสีขุ่นข้น แต่สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือผู้สูงอายุ อาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าประชาชนทั่วไป นอกจากผลกระทบโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจแล้ว ฝุ่นจิ๋วยังสามารถเดินทางเข้าไปในสมองและระบบประสาท เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคทางระบบประสาท อาทิ โรคหลอดเลือดสมอง โรคระบบประสาทภูมิคุ้มกัน ภาวะสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน เป็นต้น สำหรับเด็ก ผลกระทบจะมากกว่าผู้ใหญ่ และพบว่าหากเด็กที่อยู่ในพื้นที่มลพิษสูง หรือมีปริมาณฝุ่นจิ๋วสูง จะมีผลต่อการพัฒนาการของสมองและสติปัญญาได้ 

เตือน!! ฝุ่นจิ๋ว อันตรายต่อสมอง

สรุปข่าว

กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เตือนประชาชนระมัดระวังตนเองจากสถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 เพื่อลดผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท ทั้งในระยะเฉียบพลัน และผลกระทบระยะยาว ฝุ่นจิ๋วที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจโดยตรง และสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แล้วไหลเวียนไปสะสม ที่สมอง

ว่าที่ร้อยตำรวจโทหญิง แพทย์หญิงนภา ศริวิวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า  ฝุ่นจิ๋วที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจโดยตรง และสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แล้วไหลเวียนไปสะสม   ที่สมอง หรือสามารถซึมผ่านเยื่อบุโพรงจมูก ซึ่งเชื่อมต่อกับสมองส่วนหน้าได้โดยตรง ทำให้สมองของผู้ป่วยทำงานผิดปกติ ได้ทั้ง ในระยะฉับพลัน ได้แก่ กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์อัมพาต หรือกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในสมอง  กระตุ้นระบบประสาทภูมิคุ้มกันให้ทำงานผิดปกติ ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และเมื่อมีการสะสมเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมในผู้ป่วย และรบกวนพัฒนาการของสมองและสติปัญญาในเด็กด้วย                                            

เพื่อป้องกันผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา ขอแนะนำให้ประชาชนติดตามค่าฝุ่นละอองรายวันจากแหล่งต่าง ๆ วางแผนการเดินทางหรือการทำกิจกรรมนอกบ้าน เพื่อให้ใช้เวลากลางแจ้งให้น้อยที่สุด หาก มีความจำเป็น ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดและกรองฝุ่นจิ๋ว หากปริมาณฝุ่นมีค่าสูงมาก ควรหลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการทำกิจกรรมกลางแจ้งไปก่อน นอกจากนี้ ควรมีการจัดการสภาพบ้านเรือนให้ปลอดฝุ่น หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนเป็นประจำสม่ำเสมอ  ลดการเผาเศษวัสดุต่าง ๆ และให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการจัดการปัญหาฝุ่นจิ๋วทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะช่วยให้สามารถจัดการปัญหาได้รวดเร็ว มีผลกระทบต่อสุขภาพสั้นที่สุด 

ที่มาข้อมูล : กรมการแพทย์

ที่มารูปภาพ : Canva

avatar

Panpilai Pukahuta
(Panpilai)